หน้าแรก แท็ก บ้านสวน

แท็ก: บ้านสวน

บ้านชั้นเดียว ตอบโจทย์วัยเกษียณ เน้นออกแบบให้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติมากที่สุด บ้านพักตากอากาศชั้นเดียว สไตล์รีสอร์ท ตั้งอยู่อย่างเรียบง่าย อ่อนน้อมกลางป่าแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กับการออกแบบที่เน้นเปิดรับความสุนทรีย์ เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติเบื้องหน้าแบบส่วนตัว ผ่อนคลายไปกับวิวทิวเขา และบ่อน้ำกว้าง ในทุก ๆ กิจกรรม คล้ายพักผ่อนในรีสอร์ท โดยมีคุณณัฐศรุต มะแส สถาปนิกจาก NM Design Studio เข้ามาสร้างสรรค์บ้านหลังนี้ ให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัย ผ่านแนวคิดที่ยังคงเคารพต่อบริบทโดยรอบของพื้นที่ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของโปรเจกต์แห่งนี้ สถาปนิกหนุ่ม เริ่มต้นบทสนทนาถึงโจทย์หลักในการออกแบบ พร้อมการวางผังอาคาร ให้ผู้เขียนฟังว่า “บ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ที่แม่ริม ลักษณะที่ดินเป็นเนินเขา มีวิวภูเขา และนาขั้นบันได พร้อมกับบ่อสระน้ำ จะเห็นว่าตำแหน่งที่ตั้งของบ้าน ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ จากโจทย์ที่ได้รับ เจ้าของบ้านต้องการสร้างบ้านพักตากอากาศ สำหรับใช้เวลาในช่วงวันหยุดกับครอบครัว และวางแผนเป็นบ้านพักหลังเกษียณ และเนื่องจากเจ้าของบ้านค่อนข้างมีอายุ จึงออกแบบเป็นบ้านชั้นเดียว มีหัวใจสำคัญ คือต้องการให้ทุกส่วนภายในบ้าน ได้รับประโยชน์จากวิวโดยรอบได้มากที่สุด โดยที่การใช้งานในแต่ละส่วนก็ยังคงความเป็นส่วนตัวเช่นกัน” ฉะนั้นการออกแบบจึงให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ตามใจความหลัก ที่อาจกล่าวได้ว่า...
บ้านดีไซน์ร่วมสมัย กลิ่นอายชนบท ที่ยังคงเก็บต้นไม้เดิมไว้ เลือกใช้วัสดุในท้องถิ่นได้อย่างสมดุล บ้านสวนยามเกษียณหลังนี้ ตั้งตะหง่านอวดโฉมความงามในเรียบง่าย แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องหน้าสดชื่นสบายตาไปกับความเขียวขจีของทุ่งนากว้าง โอบด้วยความร่มรื่นของต้นไม้รอบทิศทาง อีกทั้งแนวเทือกเขาดอยม่อนแจ่ม ในยามนี้กำลังไล่เฉดสีเข้มอ่อน สลับซับซ้อนไปมาราวภาพวาด องค์ประกอบทั้งหมด คล้ายเป็นกรอบในการวางผังอาคารหลังนี้ สอดรับไปกับบริบท และพื้นที่ตั้งได้อย่างลงตัว เจ้าของคือคุณพงศ์สยาม และคุณอุราลักษณ์ ชูติวัตร ได้มอบโจทย์ความต้องการให้กับ คุณสัญญา เทียนสว่าง สถาปนิก ที่เป็นทั้งผู้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้าง จนบ้านหลังนี้แล้วเสร็จ ตอบโจทย์การพักผ่อนของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างตรงใจ กว่าที่บ้านหลังนี้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์นั้น แรกเริ่มเดิมที เจ้าของมีสวนทุเรียน ถัดจากพื้นที่นี้ไม่ไกลกัน โดยตั้งใจที่จะสร้างบ้านด้านในสวน คุณสัญญาก็ได้เข้ามาดีไซน์เป็นลักษณะบ้านชั้นเดียวจนแล้วเสร็จ แต่ไม่นานทางเจ้าของก็ซื้อที่ดินแปลงนี้ได้ เนื่องจากความโดดเด่นของทำเลที่อยู่ติดทุ่งนา มองเห็นวิวภูเขากว้างไกล สถาปนิกจึงตัดสินใจที่จะดีไซน์แบบบ้านขึ้นใหม่ โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ตั้ง และบริบทเดิม โดยเลือกที่จะยกใต้ถุนสูง เปิดโล่งแบบบ้านชนบท แต่กระนั้นก็ยังคงความเป็นส่วนตัว เพื่อสร้างมุมมอง และสเปซ ที่จะสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ ด้วยความที่ลักษณะของที่ดินแปลงนี้ แม้จะอยู่ติดทุ่งนา แต่คั่นด้วยถนนสายเล็กๆ และยังมีต้นไม้ดั่งเดิมที่เติบโตมาในพื้นที่ สถาปนิกจึงเริ่มต้นออกแบบโดยอิงจากตำแหน่งที่ตั้งเป็นหลัก เลือกที่จะรักษาต้นไม้เดิมไว้...
บ้าน-สวน-ใน-ฝัน เชื่อมโยงการใช้ชีวิตผ่านมุมมองธรรมชาติอย่างสมดุล บ้านสีขาวสองชั้นหลังคาทรงจั่ว กับกลิ่นอายของความร่วมสมัยผสานเข้ากับความเป็นมินิมอล บนพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 180 ตารางเมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติ ด้านหลังบ้านเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ โดยรอบที่ยังคงปลูกกล้วย เลี้ยงไก่ ตามวิถีชีวิตแบบชนบท ในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการออกแบบโดย คุณโปลก้า ธนกร ฉัตรทิพากร สถาปนิกผู้ก่อตั้ง DEPTH Architect Studio สตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้ามาสานต่อโจทย์ความต้องการของผู้เป็นเจ้าของก่อร่างสู่ บ้านสวนในฝัน ได้อย่างตรงใจสถาปนิกหนุ่มเล่าให้เราฟังว่า เดิมที่ดินผืนนี้มีลักษณะหน้าแคบแต่ลึกเข้าไปเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยรอบที่ดินติดกันเป็นของญาติพี่น้องที่ยังคงทำสวนกันเป็นส่วนใหญ่ เจ้าของจึงมีแพลนว่าจะยังไม่ทำรั้วบ้าน ต้องการเพียงตัวบ้านก่อน ผู้ออกแบบจึงได้ดึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ ที่เป็นดั่งวิวจากธรรมชาติ เข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักของการออกแบบ แต่ในขณะเดียวกันวิวที่เห็น เขาก็ได้วางแผนไว้เผื่ออนาคตด้วยเช่นกันว่าหากพื้นที่ของญาติๆ คนไหนต้องการปลูกบ้านขึ้นมา จะได้ดูไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวคนในบ้านนั่นเอง โครงสร้างบ้านลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางขนานตามแนวพื้นที่ สถาปนิกเลือกดีไซน์หลังคาเป็นทรงจั่ว เพื่อให้กลมกลืนไปกับบริบทรอบข้างโดยไม่แปลกแยก อีกทั้งยังเป็นรูปทรงที่ชวนให้นึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก ซึ่งเรามักจะวาดรูปบ้านหลังคาทรงจั่วกันด้วย เมื่อยืนมองจากภายนอกรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นคุ้นเคย มีความเรียบง่ายสบายตา โดยสถาปนิกพยายามลดทอนองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นลง อย่างบริเวณหน้าบ้านจะมีเพียงหน้าต่างบานเล็กๆ ที่สอดคล้องกับฟังก์ชันซึ่งเป็นทิศที่ร้อน หน้าต่างส่วนนี้จึงออกแบบไว้สำหรับระบายอากาศเท่านั้น สำหรับการวางตำแหน่งฟังก์ชันของบ้าน คุณโปลก้าเล่าต่อว่า “เริ่มตั้งแต่พื้นที่จอดรถ ถ้าเป็นแบบบ้านสมัยก่อน ผู้อาศัยส่วนใหญ่มักวางครัวไว้หลังบ้าน...
Story จันทพิมพ์ ศุกรสุต l  Phortographer Chaovarith Poonphol Architect Polar Architect l Interior Bariwat studio l  Host คุณสุวรัตน์ เจริญศุภกุล   ให้ธรรมชาติเยียวยาทุกสิ่ง... เคยไหม? เวลาที่คุณได้ทอดสายตามองใบไม้ที่ไหวเอนไปตามลมเอื่อยๆ มองทุ่งหญ้าสีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตา หรือได้มองวิวป่าไม้ ภูเขา จากมุมใดมุมหนึ่งจากบ้านพักตากอากาศหรือรีสอร์ทกลางป่าเขา ก็ช่วยปลอบประโลมวันที่เหนื่อยล้า ให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ไม่ต่างกับ บ้านของคุณสุวรัตน์ เจริญศุภกุล เจ้าของโรงงานศรีสกุลพลาสติก ผู้รักธรรมชาติ และมีตั้งใจที่อยากจะสร้างบ้านไม้หลังน้อยใกล้กับสวนที่ต้นได้ปลูกเองบนที่ดินเดียวกับโรงงาน เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว และรองรับแขกพิเศษและคนสนิทจนเกิดเป็น “บ้านทิวสน” บ้านรักนก คือจุดเริ่มต้นของเจ้าของบ้าน สู่การสร้างบ้านไม้ในฝัน โดยได้รับการออกแบบจาก Polar Architect เมื่อได้รับรู้ความต้องการของเจ้าของบ้านแล้ว ได้นำสู่ขั้นตอนการลงสำรวจพื้นที่ย่านอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร ที่เป็นที่ตั้งของโรงงาน และบ้านหลังนี้ จึงลงความเห็นว่าบริเวณที่ปลูกบ้าน คือแนวต้นสนที่ปลูกเรียงกัน 6 ต้น ด้วยเพราะเป็นพื้นที่มีต้นไม้เยอะกว่าส่วนอื่นๆ และหากตั้งอยู่ที่จุดนี้ในขณะอาศัยอยู่ในบ้านจะได้ร่มเงาของต้นไม้...
   ยกธรรมชาติมาไว้รอบบ้าน เติมพื้นที่สีเขียวด้วยพรรณไม้ดูแลง่าย ภาพของป่าปูนที่สูงตะหง่านเติบใหญ่เร็วกว่าต้นไม้บีบรัดพื้นที่สีเขียวให้เหลือน้อยลงทุกที การเติมปอดเล็กๆ ในบ้านอาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนต่างถวิลหา ลึกเข้าไปในซอยแบริ่ง 109  คือที่ตั้งของบ้านสีขาวหลังน้อย โดยรอบในยามนี้ถูกปกคลุมด้วยต้นหูกระจง ต้นไทร ฯลฯ สร้างความร่มรื่นให้ผู้มาเยือนอย่างเราในทุกอณู แม้รอบนอกจะยังคงโอบล้อมด้วยตึกสูงระฟ้าก็ตาม บ้านสีขาวหลังนี้ได้รับแรงบันดาลมาจากอะโครโพลิส (Acropolis) ป้อมปราการที่อยู่บนเทือกเขาในประเทศกรีซ ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับสวนกึ่งอังกฤษกว่า 2 ไร่ เจ้าของคืออาจารย์อำนาจ คีตพรรณา นักแลนด์สเคปชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งหากจะย้อนกลับไปประมาณ 60 กว่าปีก่อน ที่ดินพื้นดังกล่าวเป็นที่ลุ่มทั้งหมด ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของจะทำการขุดเพื่อนำดินขึ้นมาถมส่วนที่จะปลูกสร้างบ้าน จึงทำให้เกิดบ่อน้ำขนาดใหญ่ขึ้น อาจารย์จึงตั้งชื่อที่แห่งนี้ว่า “บ้านทับเลน”ต้นไม้สูงใหญ่ตามแนวรั่วถูกปลูกบดบังสายตาจากภายนอก จึงทำให้แสงแดดส่องลงมาได้เพียงรำไร บริเวณกึ่งกลางจึงปลูกได้เพียงพรรณไม้ในร่ม และไม้ชุ่มน้ำเป็นหลัก อย่างดาดตะกั่ว อโกลนีมา ฟิโลเดนดรอน ต้นจั๋ง ต้นไม้ตระกูลเฟิร์น หมากเขียว พืชตระกูลขิง ฯลฯ แล้วแต้มด้วยไม้กระถางตามจุดต่างๆ เพื่อเพิ่มสีสันความมีชีวิตชีวาให้สวนไม่นิ่งเรียบจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นดอกกล้วยไม้ ฟ้าประดิษฐ์ เจอราเนียม รวมถึงปูนปั้นเทพีประดับสวน รูปปั้นคิวปิด หัวสิงห์...
ลำธาร หิน พืชคลุมดิน กลายเป็นสวน Rainforest Style เติมเต็มพื้นที่ว่างในบ้านให้ร่มรื่น และสมบูรณ์แบบ     บ้าน รถ ครอบครัว และฐานะการงานที่มั่นคง อาจเสมือนเครื่องหมายยืนยันความสำเร็จของใครหลายๆ คน แต่สำหรับความสุขแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่อาจไม่ใช่คำตอบที่ชัดเจนเท่าใดนัก ไม่ต่างกับคุณหลอ-ปรีดา ขจรโกวิทย์ เจ้าของบ้าน และเจ้าของสวนอันแสนร่มรื่นแห่งนี้ ที่ได้พบคำตอบของความสุขที่ขาดหายไปของชีวิต นั่นคือการได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สงบสุข มองพันธุ์ไม้ในสวนให้สบายตา ฟังเสียงธารน้ำไหลให้ชุ่มชื้นใจ และพักจากการเหนื่อยล้า หันมาแบ่งเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวได้พักผ่อน โดยให้สวนรอบบ้านทำหน้าที่เติมเต็มความสุขที่อยู่ไม่ไกล สวนแห่งนี้เกิดขึ้นจากความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยคุณปณัฐ สุมาลย์โรจน์ Landscape Designer แห่ง Pergolar.co.,Ltd. ได้สานต่อแรงบันดาลในใจการจัดสวนของเจ้าของบ้านมาสร้างให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งได้นำคอนเซ็ปต์ของสวนป่าฝนมาออกแบบให้ดูเข้ากับสวนในบ้าน เพื่อให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศของเมืองไทย สามารถปล่อยให้พันธุ์เติบโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ และดูแลง่าย รองรับกับไลฟ์สไตล์ของคนในบ้านทุกช่วงวัย โดยเฉพาะคุณสุจินต์ จงศิริ คุณยายมาดอบอุ่น หนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ ผู้รักต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ และเวลาส่วนใหญ่อยู่บ้าน   การมีส่วนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหมู่แมกไม้นานาพันธุ์ อยู่รอบบ้าน จึงเป็นส่วนเติมเต็มบางสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตได้โดยปริยาย คุณสุจินต์ จงศิริ คุณยายใจดี...
จัดมุมรับประทานอาหารแบบเอ้าต์ดอร์สุดชิลล์ที่บ้าน เปลี่ยนวันน่าเบื่อให้กลายเป็นวันพิเศษ เคยไหม? รู้สึกเบื่อหน่าย จำเจ กับมุมรับประทานอาหรเดิมๆที่บ้านที่ดูยังไงก็ไม่เข้าตาสักที วันนี้  Homedeedee จึงขอชวนคนขี้เบื่อมาเปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหารให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น กับ 7 ไอเดียจัดมุมรับประทานอาหารแบบเอ้าต์ดอร์ที่บ้าน ที่เด็ด ไม่ซ้ำใครแน่นอน ไปชมกันเลยค่ะ   1. เบื่อแล้วใช่ไหมคะ ที่ต้องนั่งรับประทานอาหารในบ้านแบบเดินทุกวัน ลองเปลี่ยนพื้นที่ว่างๆของชั้นลอยให้กลายเป็นมุมรับประทานอาหารแบบเอ้าต์ดอร์ดูสิคะ โดยนำชุดโต๊ะรับประทานอาหารในแบบเรียบง่ายจากวัสดุไม้มาจัดวางที่บริเวญนี้ พร้อมใช้ประโยชน์จากวิวทุ่งนาทำหน้าที่สร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารอย่างมีความสุข เพียงเท่านี้ก็ไม่อยากลุกออกจากบ้านไปไหนแล้ว   2. สำหรับบ้านใครที่อยู่ติดริมน้ำ ลองสร้างเทอร์เรสยื่นออกไปที่ริมน้ำ พร้อมจัดเป็นมุมรับประทานอาหารในแบบเอ้าต์ดอร์ สำหรับครอบครัวและคนพิเศษ หรือจะจัดเป็นมุมปาร์ตี้แบบส่วนตัวกับเพื่อนฝูงก็สามารถทำได้ไม่ยาก แถมยังได้บรรยากาศร่มรื่นของธรรมชาติรอบบ้าน มาสร้างสีสันให้กลับชีวิตให้ดูไม่น่าเบื่อ   3. เบื่อทานข้าวที่บ้านแต่ไม่รู้จะออกไปที่ไหนดี? ลองใช้พื้นที่ว่างในสวนหลังบ้านจัดเป็นมุมรับประทานอาหารในแบบเรียบง่าย โดยเลือกใช้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารรูปทรงเพียวบางมาจัดวางไว้ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาสวน เพื่อให้ความชุ่มชื้น ร่มเย็นของต้นไม้ช่วยละลายความรู้สึกแย่ๆพบเจอมาให้กลับดีขึ้นทันที แถมยังเปลี่ยนมื้ออาหารธรรมดาให้กลายเป็นมื้อพิเศษอีกด้วย   4. สำหนับบ้านของท่านใดที่มีพื้นที่อาร์ดสเคปเหลือเยอะ แต่ไม่รู้จะตกแต่งอย่างไรดี ลองจัดเป็นมุมนั่งชิลล์รับลมเย็นๆนอกบ้านดูสิคะ หรือสร้างกิจกรรมร่วมกันกับคนในครอบครัวด้วยการจัดเป็นโต๊ะรับทานอาหาร ใต้ต้นไม้ใหญ่มาสร้างบรรยากาศร่มรื่นชวนพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ พลางทานอาหารมื้ออร่อยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว เพียงเท่านี้ได้ลิ้มรสความสุข และคลายความเหงาได้ในทันที     5. พื้นที่ว่างในสวนเล็กๆ หากปล่อยทิ้งไว้นานๆก็รก ลองเลือกสักมุมหนึ่งในสวน จัดเป็นมุมรับประทานอาหาร โดยเลือกใช้วัสดุจากแผ่นไม้จริงมาออกแบบให้กลายเป็นชุดรับประทานอาหารอย่างง่าย ใช้เป็นมุมทานอาหารสำหรับครอบครัว หรือนั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนฝูง ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยค่ะ   6. คอร์ดว่างหลังบ้าน ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆก็ดูจืดชืดไร้ชีวิตชีวา ลองนำชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กมาตกแต่งไว้กลางแจ้งดูสิค่ะ พร้อมเพิ่มพร็อพเก๋ๆ อย่างร่มกลางแจ้งมาช่วยบังแดด แถมยังเพิ่มความน่ารักให้กับสวนยิ่งขึ้น...
  3 ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติบนวิถีความเป็นอยู่แบบพอเพียง หลบความวุ่นวายในเมืองใหญ่ไปสัมผัสความสวยงามอันแสนเรียบง่าย ของที่พักอิงแอบธรรมชาติบนพื้นฐานการดำเนินชีวิตแบบบ้านๆ ที่หลายคนถวิลหา เรื่อง วันวิสาข์ อินขลิบ ภาพ นิตยสาร Life & Home     การจะเลือกที่พักเปลี่ยนบรรยากาศค้างอ้างแรมสักที่ หลายคนล้วนมีความชอบและไลฟ์สไตล์ในการเลือกหาที่ต่างกันออกไป บางคนชอบพักใจกลางเมืองเดินทางง่าย บางคนชอบความหรูหรานอนสบาย หากแต่บางคนก็ชอบความเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ แน่นอนอย่างยิ่งเลยทีเดียวค่ะสำหรับคนเมืองที่ควบตำแหน่งมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ความเร่งรีบ ความวุ่นวายกลายเป็นสิ่งที่บางครั้งอยากหลีกเลี่ยง การได้นอนพักหรือทำอะไรที่เรียบง่าย เหมือนกลับคืนสู่วิถีชีวิตแบบชาวบ้านดั้งเดิมนับว่าเป็นทางเลือกที่ช่วยเยียวยาจิตใจและเติมพลังแรงกายให้กับเราได้ไม่น้อย ผู้เขียนจึงอยากเชิญชวนผู้อ่านทุกท่าน มาทำความรู้จักกับ 3 ที่พักที่แม้ไม่ได้หรูหรา หรือครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย แต่กลับเป็นสถานที่พักผ่อนอันแสนเรียบง่ายภายใต้ความพอเพียง คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างชุ่มปอดไปพร้อมๆ กับการย้อนกลับคืนสู่การกินอยู่ในแบบชนบท ซึ่งจะทำให้เวลาไม่กี่วันในหนึ่งปีของคุณพบกับความสงบที่แท้จริง 1 Coolliving Farmhouse eco & organic living     ประเดิมที่แรกกับที่พักน้องใหม่ในเมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์ขึ้นชื่ออย่างวังน้ำเขียว กับ coolliving farmhouse ฟาร์มสเตย์ที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก coolliving แบรนด์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และต่อยอดมาเป็นที่พักรูปแบบโฮมสเตย์ที่ต้อนรับทุกท่านด้วยความเป็นออร์แกนิคอย่างแท้จริง แม้แต่ ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องนอน ห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งอาหารเพื่อให้ทุกคนได้กินอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่พักแห่งนี้ยึดมั่นในความเรียบง่ายและใช้ความสวยงามจากธรรมชาติควบคู่ไปกับภูมิปัญญาพื้นถิ่นมาใช้ในการออกแบบ พื้นที่ขนาดใหญ่ถูกจัดวางไว้ด้วยต้นไม้ แปลงผัก และนาข้าวตามวิถีเกษตรอินทรีย์แบบชาวไร่ชาวสวน อาชีพพื้นฐานของชาวไทยนั่นเอง   อีกหนึ่งความน่ารักที่ถูกใจผู้เขียนไม่น้อยคือห้องพักที่ออกแบบเป็นบ้านดินหลังเล็ก...
Full of Garden นักจัดสวนกับบ้านที่เต็มไปด้วยสวน Full of Garden นักจัดสวนกับบ้านที่เต็มไปด้วยสวน ...
ปรับอุณหภูมิบ้านเย็นง่ายๆ เพียงใส่ใจรอบบ้าน ปรับอุณหภูมิบ้านเย็นง่ายๆ เพียงใส่ใจรอบบ้าน ...