MINIMAL & MUJI อบอุ่น เรียบง่าย ในบ้านของเรา

0


บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์ อบอุ่นด้วยรัก

มีเราและน้องแมว


ด้วยความชื่นชอบสไตล์มินิมัลผสมผสานกับความเป็นมูจิ ที่เน้นความเรียบง่าย โปร่งโล่งสบาย บวกกับความเป็นธรรมชาติ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อคุณปรัชญา ทองใบใหญ่ หรือคุณบอย เจ้าของ Zeed Studio ร้านทำผมชื่อดัง ในจังหวัดราชบุรี คิดอยากจะมีบ้านสักหลัง นอกจากทำเลที่ใช่แล้ว ในเรื่องของบรรยากาศก็เป็นโจทย์อย่างหนึ่งที่เขาอยากให้ออกมาตรงใจมากที่สุด

ชายหนุ่มจึงเริ่มค้นหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านเรื่อยมา เขาเล่าว่า “ เริ่มดูไอเดียจาก Pinterest และคลิปไอเดียแต่งบ้านมาค่อนข้างเยอะ จนมาสะดุดกับรายการ AomThara ตอนที่คุณอ้อมพาไปเปิดบ้านแม่น้องพิกเซล จากเพจ Mom Diary ด้วยบรรยากาศน้อยแต่มาก ในสไตล์ Minimal & Muji ซึ่งเป็นรูปแบบที่เราชอบอยู่แล้ว จึงวางคอนเซ็ปต์ว่าบ้านจะแต่งให้น้อยที่สุด โดยเน้นที่เฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก ซึ่งเทคนิคในการเลือกของผมคือทุกชิ้นต้องมีเอกลักษณ์ ชวนมอง และราคาไม่แพงเกินไป สำหรับผมคำว่าน้อยแต่มาก คือเฟอร์นิเจอร์เพียงชิ้นเดียว เมื่อนำไปตั้งไว้มุมไหนของบ้านต้องเอามุมนั้นอยู่ ฉะนั้นผมจึงใช้เวลาหาเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างนาน ซึ่งจะเน้นเป็นแบบลอยตัว มากกว่าบิวท์อิน”


เนื่องจากบ้านที่คุณบอยซื้อเป็นบ้านในโครงการ ชายหนุ่มไปจองตั้งแต่ยังเป็นที่ดินเปล่า ด้วยความที่ต้องการบ้านที่อยู่หัวมุมต้นซอย และต้องหันหน้าทางทิศเหนือ จึงมาลงตัวกับที่ดินแปลงนี้ ซึ่งกว่าบ้านจะสร้างเสร็จก็เกือบ 2 ปี ในช่วงที่รอรับโอนบ้าน เขาก็ได้ใช้เวลาที่ว่างเว้นจากงานหลัก ค้นหาไอเดียแต่งบ้านในแบบที่ชอบอยู่ตลอด ซึ่งในช่วงนั้นเองก็เป็นช่วงที่โควิดระบาดรอบแรก ทำให้สโตร์เฟอร์นิเจอร์สินค้าของแต่งบ้านหลายที่ต้องปิดชั่วคราว คุณบอยจึงไม่สามารถไปเดินดูของได้

ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “ช่วงนั้นผมจึงต้องช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ NocNoc เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นก่อนอย่าง เก้าอี้ โต๊ะ ตู้ เตียง และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ซึ่งเป็นไม้แท้ทั้งหมด ผมสั่งโดยที่ไม่เห็นสินค้าจริงเลย แต่โชคดีที่เป็นช่วงโปรโมชั่น 11.11 จึงได้ราคาที่ลดเยอะมาก สินค้าต้องสั่งผลิต 45 วัน ซึ่งผมก็ไม่ได้รีบอยู่แล้ว เมื่อรับโอนบ้าน เฟอร์นิเจอร์ก็เริ่มทยอยเข้ามาวาง ทำให้เราเริ่มมองเห็นแล้วว่าตรงไหนยังว่าง ตรงไหนควรวางอะไรเพิ่ม ซึ่งก็เป็นช่วงที่ปลดล็อกดาวน์รอบแรก ผมก็สามารถไปเดินหาซื้อของแต่งบ้านกระจุกกระจิกได้”


เมื่อมองจากภายนอก บ้านหลังนี้ดูจะไม่แตกต่างจากบ้านโครงการหลังอื่นมากนัก แต่เมื่อเข้าสู่ภายในกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น ละมุนตา ชวนให้ผ่อนคลายในทุกมุมมอง  คุณบอยบอกกับเราว่าเดิมทีเฉดสีภายในบ้านเป็นสีขาวสว่าง ซึ่งทางโครงการได้ใช้สีทาฝ้ามาทาตัวบ้าน ชายหนุ่มจึงให้ช่างฉาบทาใหม่เป็นสีขาวครีม ประกอบกับไฟในบ้านที่ทางโครงการติดตั้งไว้เป็นสีส้ม เมื่อกระทบกับผนังจึงให้ความอบอุ่นลงตัวมาก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็มาถึงขั้นตอนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และคุมโทนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุดตามสไตล์มินิมัลนั่นเอง

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ส่วนแรกจะพบกับ Living Room ที่ชายหนุ่มได้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ส่วนนี้วางเพียงโซฟา จับคู่กับโต๊ะกลางไม้ สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนดูทีวี เชื่อมต่อไปยังมุมรับประทานเล็กๆ สำหรับ 4 คน จับคู่กับเก้าอี้หมุนได้ 2 ตัว และม้านั่งยาว 1 ตัว พร้อมวางตกแต่งด้วยต้นไม้ปลอมทรงสูงใหญ่ โดยได้แสงสว่างจากธรรมชาติส่องผ่านม่านสีขาวเข้ามาอีกทาง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความเรียบง่ายโล่งสบาย บวกกับความอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ และพื้นกระเบื้องยางลายไม้ซึ่งเป็นของเดิมที่โครงการปูไว้ถูกใจผู้เป็นเจ้าของอยู่แล้ว จึงกลายเป็นความลงตัวที่แสนกลมกล่อมไม่น้อย

ขณะที่สเปซด้านหลังผู้เป็นเจ้าของต่อเติมเป็นครัวไทย กับลุคคลีนๆ ตามรูปแบบ MUJI ที่คุณบอยได้ Reference มาจากบ้านคุณโมส Mom Diary ชายหนุ่มเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า “ผมเข้าไปติดตามดูในเพจบ่อยมาก จะเห็นว่าครัวของผมแทบจะถอดแบบบ้านคุณโมสมาเลย แต่ก่อนหน้าที่ครัวจะแล้วเสร็จ ก็เกิดปัญหาเลือกกระเบื้องผิด แม้ผมจะไปเดินดูด้วยตัวเองก็ตาม กลับไม่ได้เลือกแบบที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะไปสะดุดตาเข้ากับกระเบื้องแผ่นใหญ่ที่มีลายอิฐในตัว เลยซื้อกลับมาให้ช่างปู แต่สิ่งที่ได้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อปูเสร็จผนังครัวกลับดูแบนๆ ไม่มีมิติ และยังเห็นรอยต่อของกระเบื้องชัดมาก ผมรู้สึกผิดหวังมาก”

เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณบอยจึงได้ปรึกษาร่วมกันกับแฟน โดยความตั้งใจแรกคืออยากจะบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ในครัวให้เสร็จเสียก่อน หากส่วนไหนที่โชว์ให้เห็นกระเบื้องค่อยรื้อแล้วปูด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กอีกที เนื่องจากค่อนข้างเสียดายเงิน ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “พอคิดไปคิดมาก็กลัวว่าจะสร้างความเสียหายให้เฟอร์นิเจอร์ที่เราได้บิวท์อินไป อีกอย่างกลัวงานไม่เนี้ยบ เพราะมีการเข้ามุมค่อนข้างเยอะ แม้จะเสียดายเงิน สุดท้ายก็ตัดสินใจให้ช่างรื้อกระเบื้องที่เพิ่งปูออกทั้งหมด หลังจากนั้นผมก็ได้ไปซื้อกระเบื้องแผ่นเล็กมาปูอีกครั้ง ครั้งนี้จึงได้ผนังลายอิฐในฝันตามที่ต้องการแต่แรก”


สำหรับตู้ และเคาน์เตอร์ครัวบิวท์อินยาว 6 เมตร วัสดุ Plywood (ไม้อัดกันน้ำ) ท็อปหินควอทซ์ ซึ่งคุณบอยได้ทีม Creative Kitchen จากกรุงเทพฯ เข้ามาสานต่อความต้องการให้ โดยใช้เวลาติดตั้งชุดบิวท์อินเพียง 1 วันเท่านั้น ภาพรวมที่ดูสะอาดสะอ้าน ถูกเพิ่มชีวิตชีวาด้วยพลูด่างบลาซิลห้อยระย้าอย่างสวยงาม พร้อมกันนี้เขายังให้ช่างเปลี่ยนประตูครัวแบบเดิมๆ ที่โครงการติดไว้ให้ เป็นประตูไม้บานเลื่อนตามแบบบ้านคุณโมส ยิ่งเติมเต็มกลิ่นอายมูจิในทุกอณูเลยทีเดียว



ต่อเนื่องไปยังส่วนซักล้าง ที่ยังคงถอดแบบมาจากบ้านคุณโมสอีกเช่นเคย กับความละมุนแบบญี่ปุ่น โดยบิวท์อินเป็นตู้จัดเก็บเครื่องซักผ้าเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังคาเลือกเป็นแบบโปร่งแสง รุ่นที่มีใยไฟเบอร์จาก SCG ซึ่งช่วยกรองความร้อนและเปิดรับแสงจากธรรมชาติเข้ามา ลวดสลิงตากผ้าที่สามารถเก็บได้โดยอัตโนมัติ และไม่ลืมที่จะเพิ่มชีวิตชีวาด้วยต้นไม้ฟอร์มสวย ทั้งต้นองุ่นทะเล และต้นไม้ฟอกอากาศอย่างซานาดู



ออกจากโซนครัวเดินขึ้นสู่ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอน แบ่งเป็นโถงกลาง ซึ่งบ้านโครงการส่วนใหญ่จะจัดสรรเป็นโต๊ะหมู่บูชา หรือมุมพักผ่อนเล็กๆ แต่คุณบอยเลือกที่จะกั้นเป็นห้องกระจกสำหรับเจ้านายสี่ขาทั้ง 4 ตัว เพื่อให้น้องเมี้ยวได้มีพื้นที่ปีนป่าย และเล่นกันอย่างสบายใจ


ถัดไปจะเป็นห้อง Master Bedroom ที่จัดสรรเป็นห้องนอนของคุณบอย และพื้นที่ Walk-in Closet ที่ยังคงคุมโทนแม้กระทั้งเสื้อผ้าที่เขาและแฟนสวมใส่ โดยกั้นความเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานสไลด์ บรรยากาศในห้องนอนยังคงความเรียบง่าย ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้กลิ่นอายมูจิ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน โต๊ะข้างเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้ปลายเตียง บวกกับสีเขียวของต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร่า กวักมรกต เปปเปอร์โรเมีย ขณะที่บริเวณหัวเตียงเขาก็ได้ติดตั้งชั้นไม้ที่แน่นหนา วางประดับด้วยกระถางพลาสสติกปลูกต้นจินนี่ ที่เข้ามาเติมความมีชีวิตชีวาให้ห้องนอนได้เป็นอย่างดี


ออกมาบริเวณข้างบ้าน ที่เชื่อมต่อมาจากส่วนซักล้าง เดิมเป็นพื้นที่ว่าง ที่สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน คุณบอยได้บอกกับเราว่า ในส่วนจอดรถคันที่ 3 ที่อยู่ด้านในสุด ซึ่งเชื่อมกับสวนข้างบ้าน เขาก็ให้ช่างมาเทปูนใหม่ทั้งหมด ทำให้ได้ห้องขนาดใหญ่ 5×6 เมตร เพิ่มมาอีกหนึ่งห้อง โดยได้จัดสรรให้เป็นฟิตเนส สำหรับออกกำลังกายในทุกวัน



ขยับออกมาบริเวณหน้าบ้าน ผู้เป็นเจ้าของได้เว้นพื้นที่ไว้ให้ธรรมชาติ ด้วยการจัดสวนขนาดย่อม โดยได้ไอเดียมาจาก Pinterest คุณบอยยังคงเล่าต่อว่า “เป็นความตั้งใจของผมตั้งแต่เริ่มแรกที่อยากได้บ้านหันหน้าทางทิศเหนือ เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดค่อนข้างน้อย ด้วยความที่อยากปลูกต้นไม้หน้าบ้านมาก เมื่อกำหนดพื้นที่ได้แล้ว จึงได้จ้างช่างมาปรับหน้าดิน ปูพลาสติกกันวัชพืช โรยหินกรวด และปูแผ่นทางเดิน ส่วนที่เหลือผมก็ได้เลือกต้นไม้ใหญ่มาลงเอง 2 ต้น คือต้นพุดกุหลาบ และจิกเศรษฐี ให้เป็นไม้ประธาน


จากนั้นก็ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยไม้กระถาง โดยเลือกพรรณไม้ที่ดูแลง่าย อย่างริบบิ้นชาลีด่าง ต้นแผ่บารมีเศรษฐี ฟิโลเดนดรอนก้ามกุ้ง ต้นบอนสี ต้นฟ้าประดิษฐ์ ต้นปะการัง พญาไร้ใบ เฟิร์นใบมะขาม เฟิร์นบริพัตร และอื่นๆ โดยคุณบอยก็มีทริคในการจัดวางกระถางต้นไม้ให้ลดหลั่นไล่ระดับสูงต่ำ เพื่อให้สวนดูมีมิติมากขึ้นด้วย

 


จากความชอบที่ชายหนุ่มหลงใหล และใช้เวลาหาข้อมูลอยู่นาน ถ่ายทอดจนเกิดเป็นบ้านสไตล์มินิมัลตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ภายในไม่เพียงอัดแน่นไปด้วยความอบอุ่นทุกอณู แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก มีสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นเพื่อนยามที่เหนื่อยล้าจากโลกภายนอก สิ่งเหล่านี้ล้วนเข้ามาเติมเต็มให้บ้านอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้มอย่างเต็มเปี่ยม สำหรับใครที่ชื่นชอบแต่งบ้านสไตล์นี้ และกำลังคิดอยากปรับปรุงหรือตกแต่งบ้าน ก็สามารถเข้าไปติดตามไอเดียดีๆ เพิ่มเติมได้ที่เพจ มาดูแมวที่บ้านเรามั้ย ซึ่งคุณบอยมักจะแชร์ผลงานและชี้พิกัดของแต่งบ้านให้ผู้ที่สนใจอยู่เสมอ


ชี้เป้าพิกัดไอเทมเด็ด!!


 

Owner : คุณปรัชญา ทองใบใหญ่

Area : 59 ตารางวา 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ

BUDGET

  • งบต่อเติมครัวไทยหลังบ้าน และห้องฟิตเนส 716,000 บาท
  • งบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว 280, 424 บาท
  • งบบิวท์อินตู้ในบ้านชั้นล่าง – ชั้นบน 279,000 บาท
  • งบบิวท์อินอินครัว 125,000 บาท
  • งบจัดสวน 120,000 บาท