ทุกพื้นที่มีแต่แมว
จะดีแค่ไหนหากในวันที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อ่อนเพลียจากการทำงาน ผ่านเรื่องราวชวนปวดหัวจนรู้สึกหมดแรง เพียงแค่ได้กลับบ้าน เอนกายบนโซฟาตัวโปรด หยอกล้อกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ได้แอบอิงกับคนรู้ใจ มีความสุขกับการเฝ้ามองสิ่งที่รักรอบกาย ก็เหมือนได้ชาร์ตพลัง ให้มีรอยยิ้มที่อบอุ่นหัวใจอีกครั้ง ไม่ต่างจากคุณอุ๊ ภัทราวรรณ พันธ์ภักดี แม่แมวลูกสาม และคุณหมวย อัญชลี วรรณพฤกษ์ คู่ชีวิตของเธอนั่นเอง
สาวสวยเจ้าของบ้าน เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง เธอเล่าว่า บ้านหลังนี้อาศัยอยู่มา 5 ปีแล้ว ถูกใจด้วยทำเลใกล้ที่ทำงาน และด้วยแปลนของบ้านมีความกะทัดรัด รวมพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 32 ตารางวา ลักษณะเป็นทาวน์โฮมสไตล์บ้านเดี่ยว ผนังไม่ติดบ้านหลังอื่น รูปทรงภายนอกมีความอบอุ่นน่ารักสไตล์วินเทจ มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยข้างตัวบ้านทั้ง 2 ด้าน เพราะเป็นแปลงมุมของโครงการ
เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจในการแต่งบ้าน เธอเล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีสไตล์การตกแต่งที่ชัดเจน เนื่องจากเมื่อก่อน ไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากนัก จนเมื่อโควิดระบาด ทำให้ต้องใช้ชีวิตแบบ Work From Home คุณอุ๊จึงเกิดความคิดที่ว่า เมื่อต้องทำงาน และใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ จะทำยังไงให้รู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดเวลา เธอจึงได้เริ่มหา Inspiration แนวทางในการแต่งบ้าน ทั้ง Pinterest และตามนิยสารต่างๆ จากนั้นก็นำความชอบมาปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเธอเอง จนมาลงตัวในสไตล์มินิมอล เน้นความอบอุ่นของงานไม้ที่เธอหลงใหล
กว่าที่บ้านหลังนี้ จะออกมาน่ารัก อบอุ่น ละมุนตา เต็มไปด้วยบรรยากาศของความผ่อนคลายอย่างที่เราเห็นนี้ คุณอุ๊เสริมว่า ย้อนกลับไปตอนที่ซื้อบ้านใหม่ๆ ก็ยังไม่ได้สนใจที่จะแต่งบ้านมากนัก มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก อย่างโต๊ะทานข้าว โซฟา และบิวท์อินเคาน์เตอร์กาแฟ ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกของเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่มีอยู่
“จนเมื่อ 2 ปีที่ก่อน เราก็ได้เริ่มรื้อพื้นแกรนิตโต้ของเดิมออก แล้วปูทับด้วยกระเบื้อง SPC ลายก้างปลา พอพื้นเริ่มมา ฟีลเริ่มได้ มู้ดแอนด์โทนของบ้านก็เริ่มเปลี่ยนไป เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เลือกเข้าบ้าน จึงยึดจากพื้นบ้านที่เราเปลี่ยน ให้คุมโทนมากขึ้น” และด้วยความที่เธอชอบเที่ยวภูเขา น้ำตก ชอบธรรมชาติ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บรรยากาศในบ้านจึงดูสงบ ผ่อนคลายด้วยโทนสีเบจ ครีม แซมด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่สามารถปลูกในบ้านได้ อย่างลิ้นมังกร กวักมรกต พลูด่าง มอนสเตอร่า เข้ามาเสริมเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้บ้านยิ่งขึ้น
โครงสร้างภายนอกที่ดูมีเอกลักษณ์ในสไตล์วินเทจ บวกกับความน่ารัก กะทัดรัด ตามรูปแบบของบ้านโครงการ ก่อนจะถูกเชื้อเชิญเข้าสู่ตัวบ้าน ต้อนรับกันด้วยบรรยากาศสุดโฮมมี่ ชวนเอนกายผ่อนคลาย อบอุ่นละมุนคุมโทนในทุกมุม ลงตัวด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เป็นเจ้าของ และเจ้าแสนดี ปรีดา พาสุข น้องสี่ขาขนฟู 3 สมาชิกตัวน้อยของบ้านได้อย่างตรงใจ ต้องบอกเลยว่าไม่เพียงแค่ความรัก ความใส่ใจ ที่มีให้น้อง แต่การแต่งบ้านนั้น เธอยังคำนึงถึงความปลอดภัย สะดวกสบาย ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกเข้ามา ซึ่งน้องก็จะมีพื้นที่ของเขาอย่างเป็นสัดส่วนด้วย
ด้วยพื้นที่ใช้สอยของทาวน์โฮมที่ค่อนข้างจำกัด คุณอุ๊จึงเน้นจัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวโทนสีสว่าง และเน้นวัสดุไม้เป็นหลัก เธอเลือกวางโต๊ะรับประทานอาหารไว้กึ่งกลางบ้าน ด้านหลังจัดสรรเป็นเคาน์เตอร์กาแฟที่ถูกบิวท์อินขึ้น สำหรับชงกาแฟของพ่อบ้าน เรียกได้ว่า Coffee lover เลยก็ว่าได้
ถัดไปเป็นพื้นที่เล็กๆ สุดอบอุ่นของทุกคนในบ้าน ที่มักจะมานั่งดูซีรีส์เรื่องโปรด พักผ่อน อ่านหนังสือ และมักถูกใช้งานจากสมาชิกสี่ขาในบ้านเป็นประจำ จึงเน้นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว คุมโทนด้วยไม้ หวาย และสีเขียวของต้นไม้ เธอเล่าถึงแนวคิดในการตกแต่งว่า “อยากให้เป็นมุมที่อุ่นใจ สบายตา สำหรับหย่อนกาย พักใจ และสามารถสะท้อนตัวตนของเรา โดยมีมุมสำหรับน้องแสนดี ปรีดา พาสุข จัดวางด้วยโดม ให้น้องได้นอนเล่น และหยอกล้อกัน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ที่ประเมินค่าไม่ได้เลย”
ถัดไปส่วนหลังบ้าน ได้มีการต่อเติมพื้นที่ครัวเพิ่มจากโครงการ ขนาดประมาณ 1.6×6 m2 คุณอุ๊เล่าเพิ่มเติมว่า “ด้วยความที่คุณหมวยชอบทำอาหาร จึงอยากต่อเติมเพื่อทำเป็นครัวไทยขึ้น โดยได้ก่อเคาน์เตอร์ปูนขึ้นมา ท็อปด้วยแกรนิตโต้ ด้านบนติดตั้งหลังคาโปร่งแสง ด้วยความที่ด้านหลังบ้านมีต้นไม้คอยให้ร่มเงา และส่วนใหญ่จะเข้าครัวช่วงเช้า และเย็น จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความร้อน”
พร้อมกันนี้ยังมีการกั้นความเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนไม้ยางพารา แทนทีของเดิมที่เป็นบานเลื่อนกระจกใสสีขาว ซึ่งคุณอุ๊สั่งทำขึ้นใหม่ เธอยังบอกอีกว่า “เมื่อบานประตูเสร็จ เหมือนมุมนี้ถูกเติมเต็มให้คอมพลีทมากขึ้น เรารู้สึกแฮปปี้มาก” ด้วยพื้นที่ไม่มาก เธอจึงจัดสรรมุมซักล้าง วางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า พร้อมมุมทานอาหารแมว และส่วนของห้องน้ำแมวอัตโนมัติ ซึ่งเธอก็ได้เก็บทรายแมวทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นของน้องๆ เกิดขึ้น
ขึ้นสู่ชั้น 2 ประกอบด้วย ห้องนอน 3 ห้อง แบ่งออกเป็น Master Bedroom และห้องนอนไว้รองรับแขก และญาติหรือเพื่อนสนิทที่แวะมาเยี่ยมเยือน สำหรับโทนห้อง จะยังคุมโทนเป็นวัสดุไม้ สีเบจ และสีขาว แซมด้วยสีเขียวเบาๆ ของต้นไม้ ทั้งนี้ยังมีการเลือกใช้เตียงแบบสองชั้น ที่สามารถแยกออกเป็นเตียงเดี่ยวได้ เพื่อให้ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายด้วย
ท้ายนี้เธอได้เล่าต่อด้วยน้ำเสียงที่อิ่มไปด้วยความสุขว่า “ก่อนหน้านี้อุ๊กับแฟนเหมือนมองการแต่งบ้านคนละมุม คุณหมวยจะชอบความเป็นลอฟต์ แต่อุ๊จะชอบความเป็นมินิมอล พอได้มีการปรับจูนเข้าหากัน กลายเป็นว่าคุณหมวยก็เริ่มชอบในสิ่งที่อุ๊ชอบ ทำให้เวลาที่เรามองบ้าน มันทำให้เราหวนคิดทุกครั้งว่า กว่าที่บ้านจะออกมาเป็นบ้านได้ แล้วคนที่อยู่ด้วยกันแฮปปี้ จะต้องเห็นพ้องต้องกัน ต่างต้องเคารพกันและกัน บ้านจะออกมาเป็นยังไง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา หรือไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ใครคนเดียว แค่ว่าทุกคนในบ้านควรที่จะมีส่วนร่วม ซึ่งความสุขและรอยยิ้มที่เกิดขึ้นนั้น คนข้างกายคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด”
“อีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ น้องแมว สิ่งมีชีวิตตัวน้อย ที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่กลับมาบ้าน เวลาที่เรารู้สึกไม่มีใคร รู้สึกท้อจมอยู่กับความหม่นในชีวิต ก็มีน้องที่คอยเข้ามาคลอเคลีย เข้ามาเล่นกับเรา แค่นี้ก็เหมือนได้รับพลังบวก ได้ชาร์ตพลังอย่างมาก น้องๆ ทำให้เรากลายเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น พอเริ่มมีบ้าน เริ่มเลี้ยงแมว เริ่มแต่งบ้าน มีการพูดคุยมากขึ้น จากจุดนี้ทำให้เราค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองไปอย่างที่เราเองแทบไม่รู้ตัว” เป็นน้ำเสียงและความรู้สึก ที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกใจฟู อบอุ่นหัวใจ อย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
ผ่านมาเป็นระยะเวลา 5 ปี เธอก็ยังคงหยิบนั่น ปรับนี่ ไปเรื่อยๆ ในวงล้อมของสิ่งที่รัก การได้อยู่บ้าน ถ่ายรูป แชร์ไอเดีย พูดคุยกับเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนแบ่งปันกันด้วยความปรารถนาดีลงในเพจ งานบ้านการเรือน ที่เธอเป็นผู้ดูแล ได้ตื่นมาในอ้อมแขนคนรัก มีน้องแสนดี ปรีดา พาสุข คอยปลุก และเป็นเพื่อนยามที่อยากพักเรื่องราวอันเหนื่อยล้าจากโลกภายนอก กับพื้นที่แห่งการเริ่มต้นและเติบโต ที่เรียกว่า “บ้าน” บ้านที่มีเธอ มีเรา และมีแมว แห่งนี้
Owner : คุณอุ๊ ภัทราวรรณ พันธ์ภักดี และคุณหมวย อัญชลี วรรณพฤกษ์
เพจ งานบ้านการเรือน แสนดี•ปรีดา•พาสุข
Photograph : คุณอุ๊ ภัทราวรรณ พันธ์ภักดี
