เรียบง่าย กะทัดรัด อยู่ได้จริง กับ 4 บ้านสีขาวไม่เกิน 300 ตร.ม.

0

บ้านในฝันของคุณเป็นอย่างไร? เชื่อว่าความฝันที่อยากจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองสักหลังน่าจะความฝันของใครหลายๆคนที่อยากจะทำให้สำเร็จและเป็นจริงอย่างตั้งใจไว้ วันนี้โฮมดีดีดอมคอม ขอพาคนมีฝันมาชม 4 แบบบ้านสีขาวหลังกะทัดรัด ที่จะสานต่อแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านของคนมีฝันให้เป็นจริงกันค่ะ

 


บ้านไม้สีขาว กลางทุ่งนาสีเขียว


เปิดบ้านหลังแรกกับบ้านกลางทุ่งนา ที่ให้บรรยากาศสบายๆเสมือนได้พักผ่อนโฮมสเตย์ส่วนตัว ออกแบบเป็นบ้านต่างระดับที่ผสานกลิ่นบ้านไทย โดยมีใต้ถุนบ้านและชานกว้างยื่นออกไปชมวิวธรรมชาติของทุ่งนาที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูการเก็บเกี่ยว พร้อมทำเป็นมุมนั่งเล่นทั้งในแบบส่วนตัวและส่วนร่วมได้มาพบปะและทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวอย่างอบอุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมโยงทุกส่วนของบ้านให้กลมกลืน

บนพื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตารางเมตร ถูกแบ่งฟังก์ชั่นเป็น 3 ส่วนหลัก ตั้งแต่ใต้ถุนบ้านใช้เป็นส่วนครัวไทย และมุมรับประทานอาหาร ชั้นบนเล่นระดับเป็นทำเป็นห้องรับแขกและห้องนอนส่วนตัวสำหรับรองรับญาติและแขกคนสนิทมาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยให้ชานและบันไดทำหน้าที่สร้างความเชื่อมโยงและต่อเนื่องของบ้านให้เป็นหนึ่งเดียวกัน


ใจดี สตูดิโอ บ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น หัวใจไทย


 

คงจะดีไม่น้อย หากได้อยู่ท่ามกลางความอบอุ่นของอณูแสงแดดอ่อนๆ ที่สะท้อนเข้ามาสู่ภายในบ้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย เช่นเดียวกับ ใจดี สตูดิโอ (Jaidee Studio) ได้รีโนเวทบ้านอายุกว่า 40 ปี ให้กลายเป็นสตูดิโอกลิ่นอายญี่ปุ่นขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 180-200 ตร.ม.โดยออกแบบบ้านเป็น 2 ชั้นทรงสี่เหลี่ยม พร้อมติดตั้งช่องแสงรอบบ้าน บวกกับตกแต่งด้วยประตูบานเลื่อนกรุกรอบไม้ จับคู่กับระแนงและเทอเรซไม้ให้ได้กลิ่นอายที่ผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายในแบบญี่ปุ่น และการใช้ไม้แต่งบ้านในแบบบ้านไทยเข้าไว้ด้วยกัน

จะเห็นว่าสตูดิโอจะเน้นเรื่องการเปิดช่องให้แสงธรรมชาติลอดเข้ามาภายในบ้านได้เกือบทุกทุกทาง รวมไปถึงชั้น 2 ที่แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำด้วยเช่นกัน และยังตกแต่งภายในให้ดูสบายตา เลือกใช้พื้นไม้ขัดเสี้ยนสีดูอ่อนเพื่อให้เวลากระทบกับแสงแดดแล้วดูสว่างขึ้น  พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้โค้งมนจับคู่กับผนังสีขาว และเสริมไม้ประดับตามจุดต่างๆเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น


บ้านไม้ สตูดิโอ โรงเก็บพร็อพ


 

 

เปิดบ้านไม้สไตล์โฮมมี่ของคุณพงษ์-ศิริพงษ์ สุตะรัตร  และคุณมุก-ศรัญญา มะวงศ์ คู่รักและผู้ก่อตั้ง PhotoDiff Wedding Studio บริษัทรับถ่ายภาพและจัดงานแต่งงานอย่างครบวงจร ที่นำความรักในการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของทั้งคู่มาต่อยอดสู่การทำงานให้เติบโต และก้าวตามความฝันไปด้วยกัน  ที่ได้รีโนเวทบ้านจัดสรรอายุกว่า 30 ปี ให้กลายเป็นเรือนหอและพื้นที่ทำงาน และยังเสริมโรงไม้เก็บพร็อพสำหรับจัดงานเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน  บนพื้นที่ใช้สอยประมาณ 260 ตารางเมตร

 

บ้านหลังนี้ถูกรีโนเวทเกือบทั้งหมดเหลือไว้เพียงโครงสร้างเสา และคานไว้ ซึ่งจากบ้านเดิมที่เป็นทรงบ้านสไตล์โมเดิร์นที่เห็นชินตามโครงการบ้านจัดสรร คู่รักช่างภาพได้แปลงโฉมบ้านเป็นหลังคาจั่ว กับตัวบ้านสีขาวล้วนทั้งภายและภายนอกบ้าน โดยผนังบ้านกรุทับด้วยแผ่นเซาะร่อง เสริมคิ้วบัวที่ขอบหน้าต่าง ประตู และเพดาน เพื่อให้บ้านดูร่วมสมัยในสไตล์วินเทจ พร้อมลดเหลี่ยมลดมุมในบ้านให้ดูอ่อนโยน รวมถึงเพิ่มช่องแสง และหน้าต่างให้ทั่วทุกมุมบ้าน พร้อมได้แยกส่วนของโรงพร็อพและห้องช่างจัดวางไว้หลังบ้าน ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดไว้หลังบ้าน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

 

 


ทาวน์โฮมสไตล์มินิมอลหลังน้อย กลางเมืองใหญ่


ออกแบบทาวน์โฮมขนาดพื้นที่จากัดให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยไปตลอดชีวิต คือความท้าทายของนักออกแบบด้วยเช่นกัน ไม่ต่างกับคุณน็อต-สิทธนา พงษ์กิจการุณ และคุณทราย-วิภาวี เกื้อศิริกุล คู่รักเจ้าของบ้านสไตล์มินิมอล และสถาปนิก แห่ง A Millimetreได้สานต่อแรงบันดาลใจร่างแบบบ้านจาก 3D สู่พื้นที่จริง พร้อมสร้างสรรค์ทุกมุมให้สะท้อนตัวตนอย่างแท้จริง

สลัดคราบของทาวน์โฮมขนาดพื้ นที่ใช้สอย 16 ตารางวาให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้ นเชิง เริ่มตั้ งแต่การคุมโทนสีสว่าง โดยให้ ระแนงเหล็กหุ้มตัวบ้านไว้ สู่ภายในที่ตกแต่งในลุคอบอุ่นโดยคุม Mood and Tone ให้ช่วยผ่อนคลาย สร้างความสัมพันธ์ กับการเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวรูปทรงเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นชุดโซฟาบุผ้า โต๊ะรับประทานอาหาร ท็อปไม้เคาน์เตอร์ครัวมา ตกแต่งบ้านให้ดูนุ่มนวล และเข้าถึงง่าย เปลี่ยนโครงสร้างเดิมของบ้านจัดสรรอายุกว่า 30 ปี เเปลงร่างเป็นบ้านสไตล์ Minimal ผ่านลูกเล่นของตัวบ้านด้านนอกที่สถาปนิก ออกแบบเป็นระแนงเหล็กที่มาสร้างเส้นลาย และเพิ่มมิติให้เกิดขึ้นจนหลายคนอาจคาดเดาไม่ออกว่าภายในจะตกแต่งเป็นอย่างไร

กว่า 85% ของทาวน์โฮมแห่งนี้ถูกรีโนเวทเป็นบ้านหลังใหม่ เหลือไว้เพียงโครงสร้างเดิมของบ้านบางส่วน พร้อมปรับฟังก์ชั่นภายในบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน เเบ่งเป็น 1 ห้องนอน 2 ห้องนน้ำและ Living Space อาศัยการเว้นช่องว่างระหว่างตัวบ้านไม่ให้ชิดกาแพงหลังบ้าน เพื่อให้ความรู้สึกเป็น ส่วนตัว ไม่อึดอัด ขณะที่บันไดบ้านถูกจัดวางเลย์เอาต์ให้หันหลังกับประตูทางเข้า เพื่อให้ดูมิดชิดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งไม่ลืมที่จะออกแบบทางเดินชั้นบนให้สามารถมองทะลุสู่ชั้นล่าง เพื่อเชื่อมโยงความรู้สึกให้ต่อเนื่องกันอย่างไหลลื่น จับคู่กับวางฟังก์ชั่นของห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้าและห้องซักล่างบริเวณชั้นบนให้สัญจรอย่างอิสระในทันที

ไม่แปลกที่ทุกคนต่างมีมุมมองเกี่ยวกับบ้านที่ไม่เหมือนกัน ไม่ผิด ไม่มีถูก และไม่มีหน่วยชั่ง ตวง วัดใดๆ ประเมินความสวยงาม และความสุขของคนและเพื่อนรู้ใจในบ้านได้ดีเท่า