BANN HUBEE เปลี่ยนทาวน์โฮมหน้าตาเดิมๆ สู่บ้านสไตล์นอร์ดิก-มูจิ กลิ่นอายคาเฟ่ห่อหุ้มด้วยฟาซาดสุดเก๋

0


อยู่บ้านเหมือนอยู่คาเฟ่ กับทาวน์โฮมแต่งเอง ในสไตล์ที่ชอบ


ทาวน์โฮมสองชั้น ในจังหวัดปัตตานี ชวนให้ใครต่อใครต้องหยุดมองด้วยฟาซาดเหล็กสีขาว ที่เป็นดั่งเปลือกอาคาร ยามเย็นที่ละมุนด้วยแสงไฟสีเหลืองนวล สร้างบรรยากาศของความอบอุ่น ชวนผ่อนคลาย อารมณ์เหมือนอยู่คาเฟ่ยังไงยังงั้น เจ้าของคือช่างภาพหนุ่ม เจ้าของลายน้ำ HUBEE STUDIO และแฟนสาวคนสวย กับบ้านหลังแรก ที่เขาได้ลงมือแต่งเองในแบบที่ชอบ

ช่างภาพหนุ่ม เล่าให้เราฟังว่า “แรกเริ่มเราคิดอยากมีบ้านสักหลังขนาดไม่ใหญ่มาก จนได้มาพบกับทาวน์โฮมหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านใหม่ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่เราอยากแต่งบ้านด้วยตัวเอง จึงได้ค้นหาแรงบันดาลใจจากกลุ่มแต่งบ้าน และตามเพจรีวิวต่างๆ ศึกษาอยู่หลากหลายแบบก็เริ่มมีไอเดีย บวกกับที่เราเป็นช่างภาพและชอบนั่งทำงานตามคาเฟ่ ส่วนหนึ่งคือบรรยากาศ ที่ทำให้คิดงานได้ดีขึ้น เลยคิดว่าถ้าเราดีไซน์บ้านให้ออกมาในรูปแบบคาเฟ่ ก็น่าจะดี เราจะได้ทำงานที่บ้านแบบมีความสุข”

รูปแบบเดิมของทาวน์โฮมหลังนี้จะมีความโมเดิร์น สไตล์จะไม่ค่อยฉีกจากบ้านโครงการทั่วไป ภายในก่อนที่จะได้รับการตกแต่งก็เป็นสเปซโล่งว่างธรรมดา เมื่อทำสัญญาแล้วเสร็จ ช่างภาพหนุ่มก็ได้ตัดสินใจเรียกทีมสถาปนิกมาช่วยออกแบบฟาซาด (Facade) เพื่อเติมเสน่ห์ให้ตัวอาคารดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น เขาเล่าต่อว่า “สถาปนิกก็ออกแบบได้ตรงใจ และผมก็ชอบตั้งแต่แบบแรกที่เขาส่งมา บวกกับผู้ออกแบบเองก็ชอบสไตล์ขาวๆ คลีนๆ อยู่แล้ว จึงรู้สึกถูกชะตา สำหรับงานภายในอินทีเรียร์ต่างๆ ผมจะเป็นคนออกแบบเองเกือบทั้งหมด แม้จะลงตัวบ้างมั่วบ้างก็ตาม”

ภาพของทาวน์โฮม 2 ชั้น ถูกสลัดจากลุคโมเดิร์น พร้อมจัดสรรสเปซการใช้งานใหม่ สู่สไตล์นอร์ดิก ผสมผสานมูจิ มีกลิ่นอายของความเป็นคาเฟ่ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 23 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 180 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จากภายนอกสู่ภายในที่เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีขาวคลีนสะอาดตา เสริมด้วยสีเขียวของต้นไม้เล็กน้อย มาพร้อมความลงตัวแสนสบายที่สัมผัสได้ถึงความโปร่งกว้าง ถึงจะเป็นทาวน์โฮม แต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดทึบตันแม้แต่น้อย

เข้าสู่ภายในจากพื้นเดิมที่เป็นกระเบื้องทั่วไปตามบ้านโครงการ ถูกปูทับด้วยกระเบื้องยางลายไม้ มู้ดแอนด์โทนของบ้านก็เริ่มเปลี่ยนไป ดูอบอุ่นคุมโทนความเป็นมูจิมากขึ้น ฟังก์ชันภายในได้รับการจัดสรรอย่างเป็นสัดส่วนในรูปแบบ Open Plan เชื่อมโยงถึงกันทุกส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เน้นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว จัดวางเป็นมุมต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ปรับเปลี่ยน

เริ่มตั้งแต่มุมโต๊ะทำงาน ที่เป็นดั่งมุมโปรดของชายหนุ่ม ถัดไปเป็นมุมนั่งเล่น ขยับเข้าไปอีกนิด จัดสรรเป็นมุมครัวเล็กๆ ซึ่งเป็นส่วนเดียวในบ้านที่บิวท์อินขึ้นมา ลักษณะเป็นเคาน์เตอร์รูปตัวแอล (L) ยาวประมาณ 3 เมตรครึ่ง ท็อปด้วยไม้สนที่ได้ทากันปลวกเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นก็ติดหน้าบานและตู้แขวน โดยชั้นสองของบ้าน ได้รับการจัดสรรเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของ

ไฮไลท์ของบ้านหลังนี้ คงหนีไม่พ้นฟาซาด ที่ใครผ่านไปผ่านมาก็มักจะแวะมอง ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “บ้างก็จะมีสงสัยว่าบ้านหรือคาเฟ่ ด้วยความที่ผู้ออกแบบได้เสริมไฟ LED เส้น ตกแต่งเพิ่มเข้าไป ในตอนเย็นมองแล้วสบายตามาก ส่วนในตอนกลางวันจะดูคลีนๆ กลางคืนก็จะเปลี่ยนอารมณ์ไปอีกแบบ เราก็ชอบกันมาก และส่วนนี้ก็ยังมีระเบียงที่ยื่นออกมาบริเวณฟาซาด สามารถออกมานั่งตากลมในยามเย็น รอพระอาทิตย์ตก อากาศดีมาก ถึงแม้จะเป็นทาวน์โฮม แต่ก็คิดว่าไม่แพ้บรรยากาศบ้านเดี่ยวเลยทีเดียว”

เมื่อถามถึงส่วนที่ยากที่สุดในการทำบ้าน ชายหนุ่มเพิ่มเติมว่า “คือการหาแนวร่วมจากเพื่อนบ้าน เพื่อดีไซน์ฟาซาดให้เป็นไปในสไตล์เดียวกัน เพราะจะทำให้บ้านทุกหลังดูมิติที่สวยงาม และง่ายต่อการแก้ปัญหาเรื่องของรางน้ำ ทุกหลังจะได้อยู่แบบมีความสุขไปด้วยกัน” ทั้งนี้เขายังได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “เมื่อได้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน รู้สึกประทับใจมาก จากรูปแบบทาวน์โฮมเดิมๆ ที่สร้างขายทั่วไป เราสามารถทำให้บ้านหลังนี้ดูดีมีสไตล์ขึ้นมาได้ นั่นยิ่งทำให้เราอยากกลับมาอยู่บ้านทุกวัน กลายเป็นคนติดบ้านทันที มันคือความสุขและทำให้ครอบครัวอบอุ่นขึ้นด้วย”

บ้านหลังนี้ตกแต่งรวมเฟอร์นิเจอร์อยู่ราวๆ 5 – 6 แสนบาท แม้ช่างภาพหนุ่ม ไม่ได้มีความรู้ด้านการออกแบบ แต่ก็ได้ลงมือศึกษาหาข้อมูล จนเกิดแรงบันดาลใจ แต่งเติมจนบ้านแล้วเสร็จออกมาในแบบที่ชอบ พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์อย่างตรงใจ แม้ตัวบ้านจะดูเรียบง่าย ไม่หวือหวาใหญ่โต แต่บ้านหลังนี้คือความสุขของเขาและเธอ กับบ้าน BANN HUBEE


Owner : Hubee Kayu Safwan Malee ช่างภาพ HUBEEphotoLove สนใจติดต่องานโทร 08-1094-5939

Facade design : Prakob Kasankaradcho