“เผลอสุขใจ” ที่ใครเผลอเข้ามาพักเป็นต้องรักหมดใจ
จะมีสถานที่สักที่แห่ง ที่ให้เราสามารถเดินเท้าเปล่าได้อย่างสบายใจ อบอุ่นหัวใจเหมือนอยู่บ้าน เฉกเช่น “บ้านเผลอสุขใจ” โฮสเทลน้องใหม่บนเกาะล้านแห่งนี้ กับความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่เดินเข้ามา และความรู้สึกที่ว่าคงไม่ใช่เรื่องบัญเอิญ แต่กลับเป็นความตั้งใจบ่มเพาะในทุกรายละเอียด ตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ จนกระทั้งลงมือตกแต่งด้วยตัวเองทั้งหมด เผลอสุขใจ จึงไม่ต่างจากบ้านเพื่อน ที่พร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง นั่นคือคอนเซปต์ที่ผู้เป็นเจ้าของตั้งใจแต่แรกเริ่ม
เจ้าของคือคุณอนวัช แก้วศรี และคุณสุพิชญ์นันท์ ภคนันทานนท์ คู่รักที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ จนเกิดความประทับในที่พักสไตล์ Bed & Breakfast ในประเทศลาว กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ และได้พูดคุยกันว่า หากมีโอกาสสักครั้งก็อยากมีที่พักในบรรยากาศแบบโฮสเทล โดยตั้งโจทย์ว่าอยากมีบ้านสักหลังที่อยู่แล้วรู้สึกอบอุ่น อารมณ์ของที่นี่จึงให้ความรู้สึกราวกับเป็นบ้านจริงๆ ทุกสิ่งสามารถจับต้องได้ ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ผู้เข้าพักเผลอสุขใจไปกับบ้านหลังนี้
แรกเริ่มเดิมทีเผลอสุขใจเป็นบ้านสองชั้น ตัวอาคารด้านหน้าเป็นปูน ด้านหลังคือบ้านไม้ที่ถูกปล่อยเช่าก่อนได้รับการชุบชีวิตขึ้นใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง ฝ้าเพดาน เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น บรรยากาศภายในเน้นโทนสีขาวที่ให้ความโปร่งโล่งสบายตา เมื่อวางตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ยิ่งให้ความอบอุ่นสร้างอารมณ์ที่คุ้นเคยในทุกมุมมอง
จะเห็นว่าทุกมุมถูกเติมเต็มด้วยความสดชื่นของพรรณไม้ที่สามารถปลูกได้ในร่มได้อย่างมีชีวิตชีวาไม่ว่าจะเป็นต้นงาช้างแคระ ลิ้นมังกร พลูด่าง แส้หางม้า สาวน้อยประแป้ง เศรษฐีเรือนใน และไม้มงคลอย่างเศรษฐีวิลสัน เป็นต้น
สำหรับการการออกแบบห้องพักนั้น ความน่าสนใจอยู่ที่ชานไม้กลางบ้าน ที่ทำหน้าที่เชื่อมสเปซทั้งหมดให้ลื่นไหลต่อเนื่องถึงกัน เสมือนเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้มาเยือนได้นั่งเล่น พูดคุย อ่านหนังสือรับลม ในบรรยากาศที่อบอุ่นคุ้นเคยคล้ายชานกลางบ้านในอดีต
เฟอร์นิเจอร์ทั้งเก่าและใหม่ถูกจัดวางให้อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว โดยมีสีสันของสีเขียวเข้ามาสร้างความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น เฟิร์นข้าหลวง กวักมรกต หมากเหลือง เสน่ห์จันทร์แดง ต้นคล้า ว่านเขียวหมื่นปี สับปะรดสี ไทรย้อยใบแหลม และอื่นๆ โดยจัดวางเป็นกลุ่ม และมุมต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ
ในเวลานี้เราสัมผัสได้ถึงความเย็นสบายของสายลม และแสงสว่างที่พาดผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง ที่ช่วยสร้างความมีชีวิตชีวา อีกทั้งเสียงเพลงที่ดังมาจากลำโพง Marshall ก็ให้ความผ่อนคลายได้ไม่น้อย ที่นี่มีห้องเพียง 6 ห้องเท่านั้น แต่ละห้องต่างก็มีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกวางไว้ให้ทุกห้องมีคืออ่างอาบน้ำ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย และสะดวกสบายสูงสุด
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องพัก เรารู้ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโปร่งโล่งสบายตา สายลมที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานกระทุ้งยิ่งให้ความเย็นสบาย แม้อากาศข้างนอกจะร้อนแค่ไหนก็ตาม โทนสีขาวที่ตัดด้วยความอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ยิ่งเสริมให้เกิดความนุ่มนวลสบายตา


การตกแต่งภายในให้ความรู้สึกคล้ายกับหลุดออกมาจากแมกกาซีนแต่งบ้าน เสียงเพลงถูกบรรเลงดังมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลาสสิก มุมห้องในยามนี้ดูมีชีวิตชีวาด้วยพรรณไม้สีเขียวอย่างต้นจันผา และพญาไร้ใบ ไฮไลท์อยู่ที่อ่างอาบน้ำ ที่ถูกจัดวางให้เชื่อมต่อกับเตียงนอนได้อย่างลงตัว
บริเวณอ่างอาบน้ำถูกเติมเต็มความเป็นธรรมชาติ ด้วยบรรดาต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศหลากชนิดไม่ว่าจะเป็น แส่หางม้า งาช้าง สาวน้อยปะแป้ง สับประรดสี ต้นยางอินโด วางสลับคละกันพร้อมของตกแต่งอย่างโคมไฟ ตะเกียงโบราณ กระจก รวมถึงหนังสือแต่งบ้านได้อย่างสมดุล สร้างความสดชื่นมีชีวิตชีวาไม่ว่าในยามหลับ หรือตื่นก็ตาม แม้ว่าจะเป็นพรรณไม้ในร่ม แต่ในเรื่องของการดูแลก็ได้มีการผลัดเปลี่ยนให้ออกไปรับแสงด้านนอกอยู่เสมอ โดยเฉพาะจุดที่แดดส่องถึงรำไร เพื่อให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์


บ่อยครั้งที่เรามักตกหลุมรักบ้างสิ่งโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับการได้มาเยือน “เผลอสุขใจ” ความอบอุ่นคุ้นเคย เหมือนมาพักบ้านเพื่อนสนิทตั้งแต่ก้าวแรก เป็นใครก็ต้องหลงรักหมดใจ ไม่ต่างจากผู้เขียนที่ในเวลานี้อยากเก็บกระเป๋ากลับไปเผลอสุขใจอีกครั้งแล้วสิ
Owner : คุณอนวัช แก้วศรี และคุณสุพิชญ์นันท์ ภคนันทานนท์
เผลอสุขใจ Cafe & Bed – Koh Larn เกาะล้าน พัทยา โทร 09-8262-8424
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/Plursukjai