รีโนเวทบ้านไม้ ที่ทั้งเก่าและโดนปลวกแทะ! ผลงานสถาปนิกหนุ่ม
ที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถ กลับมาปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่อีกครั้ง
บ้านไม้หลังเก่า ที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่เล็กจนโต กระทั่ง คุณติ๊ก อดิศักดิ์ โพธิ์แก้ว ผู้เป็นเจ้าของต้องจากบ้านเพื่อไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ บ้านหลังนี้ก็ไม่มีผู้อยู่อาศัยและดูแลเป็นระยะเวลานาน แม้ชายหนุ่มจะกลับมาเยี่ยมบ้านในทุกปีก็ตาม ทว่าบ้านที่สร้างมาหลายสิบปี เมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่าน สภาพก็เริ่มเก่าและทรุดโทรมไปตามอายุ และด้วยความที่เขาเรียนด้านสถาปัตย์ เมื่อเห็นสภาพบ้านที่ไม่น่าอยู่ ก็อยากปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น จึงเริ่มมีความคิดตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่า หากเรียนจบได้ทำงาน จะใช้ความรู้ความสามารถที่มี กลับมาทำให้บ้านหลังนี้น่าอยู่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งให้ได้
จนช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา คุณติ๊กได้เริ่มวางแผนปรับปรุงส่วนที่เริ่มผุพังบ้างส่วน โดยเริ่มรื้อในส่วนที่เป็นงานไม้ก่อน ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง ปลูกสร้างมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ แต่พอยิ่งรื้อชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกว่างานเริ่มหนัก และแน่นอนบ้านไม้ที่ไม่มีคนอยู่ประจำ ปลวกคือปัญหาที่มาคู่กัน ทำให้โครงสร้างชั้น 2 เหลือไม้ที่ใช้ได้เพียงแค่ 70% เท่านั้น เขาจึงนำไม้ที่มีมาปรับใช้ให้ได้มากที่สุด โดยได้ทำการคัดแยกไม้ ให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท
เมื่อบ้านเหลือแค่เสา คุณติ๊กจึงต้องออกแบบบ้านใหม่ จากเดิมที่คิดว่าจะรื้อออกแค่โครง แล้วเปลี่ยนวัสดุบางส่วน เพื่อที่จะยืดระยะเวลาการใช้งานของโครงสร้างบ้าน แต่พอรื้อออกมากลับเจอปัญหาเรื่องปลวก และโครงสร้างบ้างส่วนที่ใช้งานไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องเปลี่ยนดีไซน์ ปรับโครงสร้าง ให้บ้านมีรูปทรงที่โมเดิร์นขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายของบ้านหลังเก่า ด้วยการขึ้นแบบไปคุยกับคุณพ่อ เพื่อที่จะหาช่างไม้มาสานต่อตามแบบที่ได้วางไว้
ชายหนุ่มเล่าว่า “หากจะบอกความต้องการหรือสไตล์ของเรากับช่าง เขาก็อาจจะยังไม่เห็นภาพ เนื่องจากเป็นช่างท้องถิ่น ผมจึงออกแบบโมเดล 3 มิติ ขึ้นมา แล้วนำไปคุยกับเขา เพื่อให้เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น โดยเราได้วางลักษณะโครงสร้างงานช่างไม้พื้นถิ่นไว้ แม้ดีไซน์จะมีความโมเดิร์น แต่ยังคงใช้ดีเทลของช่างไม้ ทั้งการต่อไม้ ยึดคาน ที่เป็นแนวทางที่ช่างถนัดอยู่แล้ว เมื่อคุยกันจนเข้าใจตรงใจ จึงเริ่มงาน”
จากโครงสร้างบ้านหลังเดิม มีลักษณะครึ่งไม้ครึ่งปูน รูปทรงตามแบบชนบทสมัยก่อน หน้างานถูกทุบทิ้งจนเหลือเพียงเสา ทางช่างก็ได้ทำการต่อโครงสร้างไม้ใหม่ ขึ้นไปชั้น 2 สำหรับกระบวนการนั้น คุณติ๊กเล่าต่อว่า “เราได้ใช้ไม้เก่าที่คัดไว้แล้ว นำมาจัดเรียงใหม่ทีละแผ่น ตามประเภทการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นไม้โครงสร้าง ไม้ฝา และไม้พื้น ชิ้นไหนขนาดความยาวไม่ได้ เราก็ให้ช่างใช้วิธีต่อไม้ให้ได้ขนาดที่ต้องการ จนโครงสร้างเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ก็เริ่มติดเชิงชายหลังคา จากนั้นจึงเริ่มมุงหลังคา ต่อด้วยงานผนัง เริ่มออกแบบฝาโครง โดยใช้ไม้ที่มีอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งเดิมตัวบ้านหลังเก่าตีไม้ฝาในแนวนอน เราก็ได้ดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนเป็นตีในแนวตั้ง ซึ่งบางช่วงที่ความยาวไม่ถึง ก็ต้องให้ช่างใช้เทคนิคต่อไม้”
“ต่อเนื่องไปยังงานหลังคา เราก็อยากโชว์งานไม้ เมื่อขึ้นโครงสร้างหลังคาเสร็จ ก็ให้ช่างตีไม้อัดยึดติดกับแป จากนั้นปิดทับด้วยเมทัลชีท และฉนวนกันความร้อน ประกบเข้ากับไม้อัดอีกที ซึ่งก็สามารถซับเสียงได้เป็นอย่างดี ดีเทลตรงนี้ทางช่างก็เหมือนได้ทดลองงานใหม่ๆ จากที่เคยทำมาด้วย”
เมื่อโครงสร้างชั้นบนเสร็จเรียบร้อย ก็มาต่อกันที่ชั้นล่าง เริ่มจากพื้นบ้าน จากเดิมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ชายหนุ่มอยากให้งานพื้นดูมีลูกเล่น จึงได้ยกเสต็ปต์ขี้นจากเดิมประมาณ 30 ซม. จากนั้นก็มาต่อที่งานผนัง ซึ่งได้ให้ช่างก่อใหม่ทั้งหมด โดยยังคงใช้ประตูทางเข้าเดิม ส่วนนี้ค่อนข้างมีความไพรเวทสูง ด้วยความที่ตัวบ้านอยู่ติดถนน เมื่อก่อนต้องเจอกับปัญหาฝุ่นเข้าบ้านได้ง่าย เมื่อออกแบบใหม่ คุณติ๊กจึงดีไซน์ผนังฉาบปูนปูทับด้วยกระเบื้องสีเทา เสมือนกรอบกำแพงบดบังสายตา ก่อนจะเจอกับประตูทางเข้าบ้านอีกชั้น ซึ่งก็สร้างความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี


ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “ด้วยความที่โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นงานไม้ งานผนังด้านล่างจึงอยากโชว์เนื้อแท้ของสัจจะวัสดุ ผสานระหว่างปูน และหิน เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งก็ดูมีเสน่ห์แบบที่ไม่แต่งเติมมากนัก อย่างงานไม้ชั้นสอง เราก็แค่ทาสีเคลือบกึ่งเงากึ่งด้าน ช่องกรอบด้านบนก็ติดด้วยกระจกเทมเปอร์ ส่วนชั้นล่างเน้นโทนสีขาว เทา ดำ เพื่อให้บรรยากาศดูคุมโทน ในรูปแบบที่ดูโมเดิร์นมากขึ้น”


สำหรับฟังก์ชันภายในบ้าน ชั้นล่างเน้นเปิดโล่งแบบ Open Plan โดยไร้ผนังกั้น พร้อมจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน ดีไซน์ในส่วนดูทีวี มีการดรอปพื้นลงไปเป็นสเต็ป สร้างลูกเล่นที่ดูน่าสนใจ ถัดไปเป็นส่วนแพนทรี่ จัดวางเคาน์เตอร์ขนาดเล็ก เชื่อมไปยังบริเวณโถงโล่งตรงบันได ดูสะดุดตาด้วยหน้าต่างไม้จากบ้านหลังเก่า ที่นำมาตกแต่งใหม่ได้อย่างลงตัวสวยงาม


ส่วนนี้จัดสรรเป็นพื้นที่นั่งเล่น ขยับเข้าไปด้านหลังเป็นพื้นที่ครัวด้านนอก และห้องน้ำ เมื่อขึ้นสู่ชั้น 2 จะพบกับราวระเบียงลูกฟัก ที่รื้อยกแผงมาจากบ้านหลังเก่า นำมาประยุกต์เข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว โดยชั้นนี้ประกอบด้วย ห้องนอน 2 ห้อง ขณะที่บริเวณหน้าบ้าน ตกแต่งด้วยสวนหินสไตล์โมเดิร์น ปลูกด้วยต้นไม้ที่ดูแลง่าย ช่วยสร้างความมีชีวิตชีวาให้ตัวบ้านไม่น้อย


จากบ้านเก่าที่ไร้ชีวิตชีวา ถูกแปลงโฉมสู่บ้านสไตล์โมเดิร์นสุดเท่ ด้วยความตั้งใจของชายหนุ่ม ที่อยากให้บ้านกลับมาน่าอยู่อีกครั้ง บ้านหลังนี้จึงเป็นความลงตัวบนพื้นที่ขนาด 110 ตารางวา ระหว่างความเก่าและความใหม่ได้อย่างกลมกลืน โดยตัวบ้านที่ยังคงสอดเทรกเสน่ห์ของงานไม้ และรายละเอียดกลิ่นอายของบ้านหลังเก่าอันเป็นความทรงจำที่คุ้นชิน ตอบโจทย์การใช้งานที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้อย่างตรงใจเลยทีเดียว
Owner : คุณอดิศักดิ์ โพธิ์แก้ว