เปลี่ยนที่ดินรกร้างกว่า 20 ปี สู่คาเฟ่ และโฮสเทลสุดชิลล์ “SUNKISS pool.bed.cafe”

“SUNKISS pool.bed.cafe โอบกอดด้วยสายน้ำ พักใจให้หายเหนื่อย”

จากที่ดินมรดกตกทอดถูกปล่อยทิ้งรกร้างว่างเปล่า ได้ถูกพลิกฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง โดยเนรมิตให้เป็นคาเฟ่ และโฮสเทลแห่งใหม่ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ชานเมืองย่านพุทธมณฑลสาย 1  ติดลำคลองบางไทร ภายใต้ชื่อ SUNKISS pool.bed.cafe ผู้เป็นเจ้าของคือคุณรณ รณรงค์ ชมภูพันธ์ และคุณกุ้ง สุภาพร ชนประชา คู่รักที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจใกล้กรุงของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ เพื่อนฝูง ครอบครัว คนรัก โดยเฉพาะคนเมืองที่ถวิลหาความเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงต่างจังหวัด ก็ได้บรรยากาศของความผ่อนคลายไม่แพ้กัน

ภาพของเรือหางยาวที่แล่นไปมาผ่านลำคลองเบื้องหน้า ชาวบ้านพายเรือขายของเลียบคลอง วิถีชีวิตของชาวบ้านฝั่งชุมชนยังคงดำเนินต่อไป อาคารบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายแบบดั้งเดิม แต่สำหรับ SUNKISS pool.bed.cafe แล้ว จะเห็นว่าแม้รูปทรงของอาคารจะสะท้อนความโมเดิร์นออกมาอย่างชัดเจน แต่กลับไม่รู้สึกแปลกแยกไปจากบริบทโดยรอบ ผ่านการใช้วัสดุที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนในทุกมุมมอง

คุณรณผู้เป็นทั้งเจ้าของและสถาปนิกผู้ออกแบบ เล่าให้เราฟังถึงที่มาที่ไปว่า “ที่ดินผืนนี้เป็นของคุณตาแฟนผม ถูกปล่อยทิ้งรกร้างมาประมาณ 10-20 ปี จนกลายเป็นที่จอดรถของชาวชุมชน ช่วงแรกที่เข้ามาดูที่ดิน แฟนผมก็มีความคิดที่อยากทำร้านกาแฟ ส่วนตัวผมก็อยากหาออฟฟิศไว้รับงานฟรีแลนซ์ แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่แน่ใจว่าพื้นที่ตรงนี้ควรจะเป็นไปในทิศทางไหน และด้วยความที่ทางเข้าค่อนข้างเล็ก หากเปิดเป็นร้านกาแฟจะขายใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากังวล ก็เลยคิดไอเดียสร้างกลุ่มลูกค้ากันขึ้นมาเอง โครงสร้างของโฮสเทลจึงได้ถูกร่างขึ้นเพราะอยู่ใกล้กับสายใต้ใหม่ ซึ่งเหมาะกับเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ นักเดินทาง”

“รวมทั้งคนเมืองที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์ จากที่ต้องขับรถไปพักผ่อนนอกเมือง 2-3 ชั่วโมง แต่ที่ SUNKISS pool.bed.cafe แห่งนี้ ใช้เวลาขับออกมาจากในเมืองไม่ถึงชั่วโมง ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบ เรียบง่าย ในบรรยากาศที่เราอาจไม่ค่อยพบเห็นมากนักในกรุงเทพฯ พอสายวันอาทิตย์ อาจตื่นขึ้นมานอนอาบแดด จิบกาแฟชิลล์ๆ พอช่วงบ่ายก็ไปเดินเล่นเพลินๆ กันที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตกเย็นก็ใช้เวลาอีกไม่ถึงชั่วโมง ขับรถกลับเข้าเมือง นั่นเป็นไอเดียแรกเริ่มของเรา”

เมื่อไอเดียเกิดขึ้น คอนเซ็ปต์ในการออกแบบก็เริ่มตามมา จะเห็นว่าโดยรอบที่ยังคงเสน่ห์ของบ้านริมคลองในอดีต ฉะนั้นรายละเอียดของการออกแบบ คุณรณจึงต้องการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบริบทริมคลองโดยไม่แยกออกจากกัน แม้โครงสร้างหลักของอาคารจะเป็นคอนกรีต แต่ถูกลดทอนไม่ให้แข็งกระด้างด้วยวัสดุไม้

พร้อมเน้นโทนสีที่ให้ความรู้สึกโคซี่สะท้อนถึงความอบอุ่น โดยตั้งใจให้ตัวอาคารดูซีดด้วยโทนสีคล้ายกับโดนแดดโลมเลีย เพราะเมื่อแสงแดตกกระทบตัดกับสีซีดๆ เงาก็จะดูเข้มขึ้น ทำให้เกิดเป็นแพทเทิร์นที่สวยงาม

แม้กระทั้งองศาของหลังคาที่ได้รับการดีไซน์ให้รู้สึกต่อเนื่องและกลมกลืนไปกับบริบทฝั่งตรงข้าม เมื่อมองเข้ามาจึงไม่รู้สึกบาดสายตา ความโดดเด่นอยู่ที่ Facade โครงเหล็กที่สร้างอัตลักษณ์ให้ตัวอาคารดูสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น เมื่อแสงเงาตกกระทบบนพื้นและผนัง ทำให้เกิดมิติที่สวยงามแปลกตาไปตามช่วงเวลาระหว่างวัน เสมือนฉากงานศิลปะก็ว่าได้

ความโดดเด่นอีกอย่างเมื่อมาเยือนที่นี่คือสระว่ายน้ำที่ทอดยาวขนาดไปกับคาเฟ่ และตัวโฮสเทล พร้อมเปิดมุมมองไปยังวิวลำคลองบางไทรเบื้องหน้า โดยไม่มีสิ่งใดบดบังสายตา