Product of the week x Property Hub กลับมาพบกันอีกครั้งช่วงต้นสัปดาห์ของเดือนเมษายน ที่คราวนี้เราจะพาไปเจาะลึกการจัดการระบบต่างๆ ภายในประเทศสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการวางผังเมือง ระบบเศรษฐกิจ รวมไปถึงรูปแบบสถาปัตยกรรม ที่มีความโดดเด่นไม่น้อยไปกว่าในเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรม
และสำหรับใครที่เคยเดินทางไปต้องเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งนั้นเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้พวกเราทีมงาน HomeDeeDee อยากจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับประเทศนี้มากยิ่งขึ้น
“สิงคโปร์”
“สิงโตพ่นน้ำ” ภาพจำของใครหลายคนเมื่อนึกถึงประเทศสิงคโปร์ คงหนีไม่พ้นกับแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง Merlion หรือสิงโตทะเลสัตว์คู่บ้านคู่เมือง แต่นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายเกี่ยวกับประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของระบบการปกครองที่มีความเข้มข้นทางกฎหมาย รวมไปถึงระบบทางเศรษฐกิจที่มั่นคงจนทำให้กลายเป็นประเทศที่น่าอยู่อาศัยอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งในทางกลับกันก็เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกเช่นกัน
การวางผังเมือง
“More Land / More Homes / More Greenery”
การวางแผนยุทธ์ศาสตร์การวางผังเมือง เริ่มต้นในปี 2014 จนถึง 2030 ภายใต้แนวความคิด More Land-More Homes-More Greenery ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเมืองเข้ากับชีวิต และธรรมชาติ เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว สร้างความยั่งยืนได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้นยังหมายรวมไปถึงระบบการจัดการทางด้านเศรษฐกิจที่จะเป็นแรงจูงใจให้นักชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศ
เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตประเทศสิงคโปร์มุ่งมั่นในการสร้างเมืองให้กลายเป็น Smart City โดยขาดการคำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คน จนทำให้เกิดการสะดุดในรูปแบบที่ต้องการความสอดคล้องกันระหว่างเมืองและผู้คน ดังนั้นจึงได้เริ่มมีการปรับ แผนแม่บทการพัฒนาเมืองใหม่อีกครั้ง โดยเน้นการสร้างระบบการคมนาคม ไปพร้อมกับฟื้นฟูเมืองและผู้คนให้เจริญเติบโตไปพร้อมกัน
แผนแม่บทการปฏิรูปเมือง หรือ Master Plan คือการสร้างสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ รวมถึงการจัดทำโปรแกรมการศึกษาออกแบบพื้นที่ เพื่อให้เกิดอัตลักษณ์ของจุดศูนย์รวมในพื้นที่ (Node) ได้แก่ ย่าน Holland Village,ย่าน SerangoonGardenp ,ย่าน JalanKay อีกทั้งยังได้พัฒนาศูนย์ปฏิบัติการระดับภูมิภาคและกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วทั้งเกาะ ใน Woodlands Regional Centers เพื่อเพิ่มพื้นที่แหล่งงานที่มีคุณภาพใกล้บ้านมากขึ้น โดยทุกชุมชนต้องห่างจากพื้นที่สวนสาธารณะไม่เกิน 400 เมตร และพื้นที่สวนสาธารณะทั้งหมดในประเทศต้องมากกว่า 90%
สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยี
“Design for Life”
แน่นอนว่าเมื่อมีการจัดวางระบบผังเมืองที่ดี จะนำมาซึ่งการจัดการทางด้านทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนต่างๆ เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในเรื่องของการจัดระเบียบประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสิงคโปร์ให้ความสำคัญในเรื่องของการออกแบบมากพอกับการใช้ชีวิตของคนภายในประเทศ และนี้จึงเป็นที่มาของ Design for Life…
เรามักตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามเพียงแค่เปลือกนอก แต่สำหรับสถาปัตยกรรมทั้งหมดภายในประเทศสิงคโปร์ล้วนมีความหมายทั้งในเรื่องของปรัชญาแนวความคิด การตอบสนองการใช้ชีวิตกับผู้คน และเรามักจะได้ยินเสมอว่า การออกแบบพื้นที่ของสถาปัตยกรรมที่ดี ไม่ใช่ความสวยงาม แต่เป็นการสร้างพื้นที่ให้กับผู้คนได้ดำรงอยู่
รูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่โดดเด่นที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ The Interlace, The Hive NTU และ Gardens by the Bay เนื่องจากสถาปัตยกรรมทั้ง 3 นั้นมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของงานออกแบบที่ครอบคลุมทั้งในเรื่องของการดีไซน์สถาปัตยกรรม การออกแบบพื้นที่ภายใน และ Landscape Design ที่สามารถเชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับวิธีชีวิตผู้คนและสังคมเมืองได้อย่างลงตัว
ไม่เพียงเท่านั้นสิงคโปร์ยังได้สร้างสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ขึ้นมาอย่างหลากหลาย เพื่อการใช้งานบวกกับความสวยงาม อีกแง่หนึ่งคือการสร้างพื้นฐานทางอารยธรรมของยุคสมัยใหม่ขึ้นมา โดยที่สิงคโปร์ได้กลายเป็นผู้นำอารยธรรมทางด้านความคิด และต้นแบบทางด้านนวัตกรรม-เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต
ระบบเศรษฐกิจ
ในอดีตสิงคโปร์เป็นเพียงเมืองท่า เพราะรูปแบบของประเทศเป็นเกาะขนาดเล็ก ก่อนที่จะเริ่มมีการพัฒนารูปแบบโครงสร้างของประเทศจนทำให้เกิดการปฏิวัติรูปแบบอุตสาหกรรมทางด้านเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ จนปัจจุบันประเทศสิงคโปร์เมืองท่าใหญ่อันดับ 4 ของโลก ในแต่ละปีจะมีเรือสินค้าผ่านเข้า – ออกท่าเรือไม่ต่ำกว่า 4000 ลำ สิงคโปร์มีโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 2400แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันเป็นโรงงานที่ทันสมัย และทันสมัยและใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลิตผลจากโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ อะลูมิเนียม, มะพร้าว, ยาง, เครื่องใช้ภายในบ้าน, เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้นฯ
-
เศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ประเทศสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศขนาดเล็กที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติต่ำ ดังนั้นจึงทำให้รัฐบาลมีการหารายได้จากเศรษฐกิจท่องเที่ยว โดยได้พัฒนาเมืองต่างๆ พร้อมกับสร้างสิ่งปลูกสร้างทางด้านสถาปัตยกรรม ทั้งในเชิงธุรกิจและทั่วไป เพื่อเป็นการสร้างฐานของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย ในปัจจุบันสิงคโปร์มีรายได้จากเศรษฐกิจท่องเที่ยว เฉลี่ย 10,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
-
อุตสาหกรรมการผลิต
อุตสาหกรรมหลักของประเทศสิงคโปร์ได้แก่ อุตสาหกรรมเคมี, อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากได้มีการสร้างฐานผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไว้ทางด้านตะวันตกของประเทศ และสินค้าที่มีการส่งออกมากที่สุดคือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เชื้อเพลิงและแร่ธาตุ ส่วนสินค้าที่นำเข้าเยอะที่สุด เคมีภัณฑ์, อาหาร, เนื่องจากสิงคโปร์มีทรัพยากรทางธรรมชาติน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกันถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
-
ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ
ถือได้ว่าประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆ ที่ได้มีการลดความหนาแน่นบนถนน ด้วยการสร้างระบบการคมนาคมด้วยรถไฟฟ้าและรถใต้ดิน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้ากับการเดินทางได้ทั่วเมืองตั้งแต่ตะวันออกจนถึงตะวันตก จึงทำให้ระบบคมนาคมในรูปแบบนี้ ผู้คนในสิงคโปร์นิยมใช้และเข้าถึงได้ง่ายที่สุด และนอกจากนั้นยังมีระบบขนส่งอื่นๆ เช่น รถประจำทาง ในรูปแบบของรถบัส SMART Link และรถแท็กซี่ คอยอำนวยความสะดวก
[ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับสิงคโปร์ ]
- สิงคโปร์เป็นเมืองท่าปลอดภาษีคือไม่มีการภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยจึงทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำรายได้ให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง
- รัฐบาลสิงคโปร์ได้สร้างท่าเรือน้ำลึกและอู่เรือขึ้นเพื่อใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศ ทางทิศตะวันออกของท่าเรือโรดส์
- โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองจูรงทางด้านตะวันตกของประเทศ ติดกับชายฝั่งทะเลน้ำลึก ซึ่งมีลักษณะเหมาะสมกับการเป็นท่าเรือ
- รายได้ของคนในประเทศต่อครัวเรือนของผู้คนภายในประเทศสิงคโปร์อยู่ที่ 54,776 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนตัวผม เมื่อนึกถึงประเทศหรือเมืองในอุดมคติ ที่มีการจัดการรูปแบบของเมืองได้อย่างเป็นระบบ ปลอดจากอาชญากรรม มีความปลอดภัยในการชีวิต บ้านเมืองสะอาดสวยงาม และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “สิงคโปร์” เป็นหนึ่งในประเทศที่ผมหมายถึง
สามารถติดตามข่าวสารการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ รูปแบบการใช้ชีวิต และข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ Homedeedee.com
Credit:Data & Photo > archdaily, contactsingapore, divui, mgsarchitecture, Nikkei Asian Review, shirshobindu, Singapore Ramboll Group, The Straits Times, TheSmartLocal, youthcarnival
