BEFORE/บ้านก่อนรีโนเวต
จากบ้านทรงกล่องสีดำชั้นเดียว 100 ตร.ม. สู่บ้านสีขาวสองชั้น 360 ตร.ม.
พื้นที่ขยายความสุขของครบครัว
จากบ้านทรงกล่องสีดำ รูปตัวแอล (L) บนพื้นที่ใช้สอยประมาณ 100 ตารางเมตร เดิมทีผู้เป็นเจ้าของตั้งสร้างขึ้นสำหรับใช้ชีวิตคนเดียว แต่หลังจากมีครอบครัว ก็รู้สึกว่าสเปซที่มีเพียงห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องเก็บของ จากที่เคยคิดว่าเพียงพอ ก็รู้สึกคับแคบลงไปถนัดตา ผู้เป็นเจ้าของจึงตัดสินใจที่จะขยับขยายพื้นที่ใช้สอย เพื่อตอบรับกับชีวิตครอบครัว ทั้งภรรยา และลูกชายตัวน้อยได้มีพื้นที่กว้างขวางขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ชายหนุ่มตัดสินใจรีโนเวทต่อเติมขยายชั้น 1 และเพิ่มพื้นที่ชั้น 2 รวมเป็น 360 ตารางเมตร


จากบ้านสีดำ ถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวคลีน ด้วยความชื่นชอบสไตล์มินิมอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การปรับปรุงบ้านครั้งนี้ จึงยังคงเน้นความน้อย เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ชายหนุ่มเล่าให้ฟังถึงแต่ละขั้นตอนของการรีโนเวทบ้านหลังนี้ว่า “เริ่มจากคิดส่วนขยาย ต่อเติม ขอบเขต รวมไปถึงพื้นที่ใช้สอย เพื่อให้เป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง จากนั้นก็เริ่มดูงาน Reference ที่ชอบ จนได้แบบที่ตรงใจ ก็ได้ออกแบบเองร่วมกับภรรยาทั้งหมด จากนั้นก็ได้จ้างวิศวกรเป็นผู้เขียนแบบให้ ก่อนจะมองหาผู้รับเหมา ที่รับงานสเกลกลางๆ สามารถรับงานต่อเติม งานรีโนเวตได้”
จาก 1 ชั้น เป็น 2 ชั้น เมื่อตกลงได้ผู้รับเหมา จึงได้วางผังก่อสร้าง จากนั้นจึงเริ่มตอกเสาเข็มไมโครไพล์ เพื่อสร้างอาคารใหม่ในส่วนขยายของชั้น 1 เป็นส่วนของห้องครัว บันได และห้องเก็บของ เจ้าของบ้านเล่าต่อว่า “ได้เริ่มต่อเติมบ้านชั้น 2 และทำการตกแต่ง จนเสร็จเรียบร้อย ก็ได้ย้ายของจากชั้น 1 ไปไว้ยังชั้น 2 เคลียร์พื้นที่หน้างาน แล้วจึงให้ช่างทำการทุบกำแพงชั้น 1 ในส่วนของอาคารเก่า เพื่อให้เชื่อมกับอาคารหลังใหม่ รวมถึงบันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 2 จากนั้นจึงเริ่มรีโนเวตบริเวณชั้น 1”
ลักษณะบ้านหลังเดิมก่อนทำการต่อเติม รีโนเวต เป็นทรงกล่องหลังคาดาดฟ้า มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้มีการตอกเสาเข็มตัวไอยาว 24 – 26 เมตร ให้ได้ Blow Count ลึกถึงชั้นหินแข็ง ซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 4 ชั้น ชายหนุ่มเสริมว่า “เราได้มีการต่อเติมอาคารเพิ่ม โดยใช้เสาเข็มไมโครไพล์ เนื่องจากพื้นที่ด้านหลังไม่สามารถนำปั่นจั่นเข้าไปตอกได้ ในส่วนของอาคารหลังใหม่ ก็ได้ดีไซน์ให้เป็นพื้นที่ของบันได ห้องครัว และห้องเก็บของ พื้นที่ต่อเติมใหม่จะอยู่ที่ 80 ตารางเมตร”
BEFORE/บ้านก่อนรีโนเวต
สำหรับความยากของการรีโนเวตนั้น ชายหนุ่มเล่าว่า “การต่อเติมรีโนเวตไปด้วย ทั้งที่ยังนอนอยู่ชั้น 1 และลูกชายอายุแค่ 1 ขวบ ทั้งเสียงก่อสร้างที่รบกวนตลอดทั้งวัน และด้วยความที่ผมชอบกระจกบานใหญ่ ทุกบานสูง 3 เมตร ต้องชนฝ้า ซึ่งน้ำหนักจะเยอะมาก ทำให้การลำเลียงขึ้นชั้น 2 เป็นไปยากลำบาก และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ในการช่วยยก และกำลังคนในการเคลื่อนย้ายขึ้น อีกทั้งการต้องขึ้นไปนอนชั้น 2 ในขณะที่ชั้น 1 กำลังรีโนเวตไปพร้อมกัน ซึ่งก็ต้องมีการทุบส่วนเชื่อมระหว่างชั้น 1 อาคารเก่า และชั้น 1 อาคารใหม่ กลายเป็นบันไดต้องทำทึบ ติดประตูและกระจก เพื่อไม่ให้ฝุ่นและแมลงขึ้นมาชั้นอยู่อาศัย”
เจ้าของบ้านเล่าเพิ่มเติมว่าถึงปัญหาที่พบว่า “ช่วงแรกที่บ้านอาจมีการเคลื่อนตัว ทำให้มีรอยร้าวตรงจุดเชื่อมต่อ ก็ได้ให้ช่างมาทารูฟชิลด์ ตกแต่งทาสี ซ่อมแซมกันไป ทั้งนี้ผมมองว่าถ้าเสาเข็มถึงหินแข็งอยู่แล้ว โอกาสทรุดตัวแบบที่เห็นกันเป็นหลายสิบเซน แทบเป็นไปได้ยาก”
สำหรับเทคนิคการเสริมความแข็งแรงให้บ้าน และการเปลี่ยนบ้านจากสีดำเป็นสีขาวนั้น ชายหนุ่มได้บอกกับเราว่า “โครงสร้างฐานรากต้องดี เสาเข็มต้องมีความ แข็งแรงสูง และควรลงให้ยาวลึกถึงชั้นดินแข็ง เพื่อช่วยให้บ้านมีฐานที่มั่นคงแข็งแรง กระจกเทมเปอร์ทุกบาน ต้องติดตั้งให้แข็งแรงตั้งแต่แรก จะได้ไม่เสียเวลามานั่งแก้นั่งซ่อมให้ปวดหัวภายหลัง ในส่วนของการเปลี่ยนบ้านจากสีดำ เป็นสีขาว ช่างสีได้ใช้น้ำยารองพื้นสีเก่าก่อน จากนั้นทาสีขาวทับ 2-3 รอบ ซึ่งก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากนัก”
ในขณะที่พื้นที่นอกตัวบ้าน เดิมทีเป็นสนามหญ้า ปลูกด้วยไทรเกาหลีอยู่โดยรอบ ถูกแทนที่ด้วยต้นพิกุล กับฟอร์มที่สวยงาม เรียงกัน 3 ต้น ซึ่งก็มีสระว่ายน้ำ ที่เจ้าของบ้านมักจะเจองูอยู่เป็นประจำ บ้างก็มีงูเห่า ซึ่งพอมีลูก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจจำกัดขนาดสนามหญ้าให้เล็กลง บวกกับแฟนสาวชอบสวนหิน เขาจึงเลือกปรับสนามหญ้าทิ้ง จนเหลือหญ้าแค่ประมาณ 200 ตารางเมตร แล้วปลูกผักชีลาว กุหลาบหลากสี และดอกเดซี่
จากนั้นก็ได้ดีไซน์บ่อปลาคาร์ปเพิ่ม วางขนานกับสระว่ายน้ำ เพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยต้นน้ำเต้าอินเดีย เกล็ดกระโห้ จั๋ง ปริกหางกระรอก เฟิร์น ฟิโลเดนดรอน หูช้าง ยิ่งให้ความสดชื่นสบายตา ชวนผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เจ้าของบ้านเล่าเพิ่มเติมว่า “เป็นบ่อที่ภรรยาผมชอบมาก เราได้ลงมือออกแบบเองทั้งหมด ตั้งแต่วางแผนก่อสร้าง วางเสาเข็ม ไปจนวางระบบน้ำระบบไฟ ซึ่งเราก็ได้รับคำแนะนำจากคุณเอ็กซ์ จากช่อง YouTube / X Creator” นอกจากนี้พื้นที่หลังบ้าน ยังปลูกพืชผักสวนครัวขนาดเล็ก กับพื้นที่ 20 – 30 ตารางเมตร อีกด้วย
เมื่อเดินเข้าสู่ภายในบ้าน ต้อนรับกันด้วยโถงกลางหรือห้องนั่งเล่น พร้อมมินิบาร์ขนาดกระทัดรัด ไว้นั่งทานมื้อเบาๆ กับบรรยากาศที่โปร่งกว้างสบายตา ด้วยแสงสว่างจากธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกใสบานใหญ่ (ใช้ Robot ทำความสะอาด) ยิ่งให้มิติและความอบอุ่นไปพร้อมกัน ทั้งยังเปิดมุมมองให้เห็นวิวสวนภายนอกได้อย่างเต็มตา
เมื่อเดินผ่านประตูบานสูงเข้าไปจะพบกับห้องกลาง ที่สามารถทอดสายตามองดูปลาคาร์ป พร้อมวิวของสระว่ายน้ำ สร้างความผ่อนคลายให้กับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี


เชื่อมถัดมาจัดสรรเป็นห้องครัว เน้นโทนสีดำ ที่ดูโมเดิร์นทันสมัย โดยได้ดีไซน์ไอส์แลนด์ขนาดใหญ่ สูง 90 เซนติเมตร ท็อปด้วยหินแกรนิตจากศิลาตาก ที่เจ้าของบ้านเป็นผู้ออกแบบเอง ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ก็สามารถนั่งรับประทานอาหารได้เช่นกัน


ขณะที่บันไดได้ดีไซน์ฝังไฟส่องเท้า เพื่อสร้างมิติและบรรยากาศสบายตา อีกทั้งยังให้ความปลอดภัยยามค่ำคืน บริเวณชานพักแรก ติดตั้งหน้าต่างบานเล็กๆ หันไปทางทิศใต้ เพื่อรับลมเข้ามาในบ้าน ขึ้นสู่ชานพักส่วนที่สอง ดีไซน์บล็อกแก้ว เพื่อรับแสงธรรมชาติ ในยามกลางวัน
เมื่อมาอยู่ที่ชั้น 2 จะพบกับห้องกลาง ก่อนแยกไปยังห้องลูกน้อย ชายหนุ่มได้วางอ่างน้ำให้ลูกชายได้เล่นสนุกสนาน สามารถโรยหินในรางน้ำให้ดูสวยงาม
มาถึงห้องลูกชาย ได้ดีไซน์เพิ่มลูกเล่นด้วยกระจกวงกลม เน้นพื้นไม้โทนเหลืองอ่อนออกส้ม ให้บรรยากาศสบายๆ สำหรับการพักผ่อน
พร้อมเจาะช่องเป็นอุโมงค์ลอด เพิ่มลูกเล่นที่ผนัง เชื่อมไปยังห้องทำการบ้านลูก เพื่อให้เขารู้สึกสนุกสนาน อีกทั้งยังเสริมความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
ถัดมาส่วนสุดท้ายจัดสรรเป็นห้องนอนใหญ่ เมื่อเดินเข้ามาภายใน ส่วนแรกจะพบกับ Walk-in Closet โทนสีดำ ที่ให้ความรู้สึกเคร่งขรึม ทว่าหรูหราไปในตัว ถัดไปจัดสรรเป็นห้องน้ำ ที่แบ่งแยกโซนเปียก – โซนแห้ง อย่างเป็นสัดส่วน ด้วยการใช้สีของกระเบื้อง เน้นลวดลายหินโทนสีเทาอ่อน และโทนสีเทาดำ โดยที่โซนอาบน้ำเลือกใช้ชุดฝักบัวแบบฝังสีดำด้าน ขับเน้นความหรูหราขึ้นไม่น้อย
กลับมาในส่วนอ่างล้างหน้าเลือกแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ ท็อปด้วยหินอ่อน White Carrera งดงามด้วยริ้วลายเส้นสีเทา พร้อมติดตั้งกระจกใสส่องหน้า ดีไซน์แถบไฟตำแหน่งบนและล่าง นอกจากความสวยงาม ยังเพิ่มความละมุนให้ส่วนนี้ไม่น้อย ขณะที่ผนังด้านหนึ่ง เลือกกรุด้วยกระจกใสบานใหญ่ สูงจรดฝ้า เปิดมุมมองกว้าง รับแสงธรรมชาติให้ความผ่อนคลายสบายตา ด้านนอกเลือกวางด้วยต้นสนใบพาย ที่ช่วยบดบังสายตาจากภายนอกได้อีกทาง ยิ่งให้ความรู้สึกคล้ายพักอยู่ในรีสอร์ทสุดหรู ตามความตั้งใจของผู้เป็นเจ้าของ
สำหรับการออกแบบห้องนอนใหญ่ ที่มาพร้อมความอบอุ่น โปร่งโล่งละมุนตา ยังคงเลือกใช้กระจกใสบานใหญ่สูงชนฝ้า ที่เปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน พร้อมก่อที่นั่งปูนริมหน้าต่างขนาดยาว 5 เมตร ปูทับด้วย SPC วางด้วยเบาะที่สั่งตัดขึ้นใหม่ หุ้มด้วยผ้า PASAYA สี Birch ให้นั่งเอนกายชมวิวท้องฟ้าพักผ่อนเพลินๆ ส่วนสุดท้ายคือดีไซน์ Walk-in Closet สีขาว
ก่อนจะเล่าถึง Walk-in Closet ระหว่างความโมเดิร์น WHITE & BLACK และความเป็น MINIMAL นั้น ชายหนุ่มได้บอกว่า “ช่วงที่มีแพลนจะรีโนเวต และต่อเติมบ้าน ได้มีการประชุมกันในครอบครัว จึงได้แบ่ง ห้องครัว ห้องลูกชายทั้งหมด ให้ภรรยาเป็นผู้ออกแบบ ส่วนผมขอแค่ส่วนห้องโถงกลาง กับห้องนอนใหญ่”
ด้วยความที่เขาทั้งคู่มีความชอบที่แตกต่าง ทั้งโทนสี สไตล์เสื้อผ้า ฉะนั้น Walk-in Closet รูปแบบและความต้องการคงหาจุดกึ่งกลางไม่ได้ เขาจึงได้แยกห้องกัน ชายหนุ่มชอบโทนสว่างดูสบายตา จึงเลือกเฟอร์นิเจอร์สีไม้ ลิ้นชักเยอะ เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ เลือกม่านสี Natural
ส่วนภรรยาสาวชอบโทนสีเข้มดูหรูหรา จึงเลือกเฟอร์นิเจอร์สีดำ ยังคงเน้นลิ้นชักเยอะ เพื่อให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ เช่นเดียวกัน ในขณะที่ม่านเลือกสีเทาเข้ม เพื่อให้คุมโทนเข้ากับบรรยากาศห้อง โดยการออกแบบของทั้งสองห้อง สิ่งที่เหมือนกันคือ จะเลือกใช้ไฟเส้นแบบฝังฝ้า เพื่อให้ดูหรูหรา เรียบร้อย และสวยงามไปในตัว


เสน่ห์ของบ้านทรงกล่องสีขาว แม้จะดูเรียบง่าย กลับซ่อนรายละเอียดตามจุดต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจ กับบรรยากาศที่เน้นความโปร่งโล่ง กับความโดดเด่นของกระจกที่สูงชนฝ้า เปิดรับแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน ดูมิติด้วยแสงเงาในยามกลางวัน ยามเย็นละมุนตาด้วยแสงไฟวอร์มไวท์ สดชื่นไปด้วยพรรณไม้ที่ปลูกอยู่โดยรอบ กับความรู้สึกคล้ายพักอยู่ในรีสอร์ตส่วนตัวในทุกวัน
เจ้าของบ้านได้ทิ้งท้ายว่า “เป็นความภูมิใจ ที่เราได้สร้างพื้นที่สิ่งแวดล้อมที่ดีให้ครอบครัวได้ ภรรยามีบ่อปลาคาร์ป สวนหิน มีครัวที่เขาชอบประกอบทำอาหาร ลูกน้อยมีพื้นที่วิ่งเล่น มีสระว่ายน้ำ มีสนามหญ้า ที่เสริมสร้างพัฒนาการที่ดีได้” จากบ้านที่ชายหนุ่มตั้งใจสร้างสำหรับใช้ชีวิตคนเดียว ได้รับการรีโนเวต ขยายต่อเติม รองรับชีวิตครอบครัว ทั้งภรรยา และลูกชายตัวน้อยได้อย่างตรงใจ ไม่เพียงสเปซที่ตอบโจทย์ แต่ทุกมุมของบ้านคือความตั้งใจของเขาและเธอ ที่แม้จะชื่นชอบกันคนละแบบ แต่กลับไม่รู้สึกแปลกแยกแม้แต่น้อย นับเป็นความสุข ความอบอุ่น ที่อบอวลอยู่ในบ้านสีขาวสุดละมุนของครอบครัวธนพงศ์อาชา หลังนี้
ระเวลาก่อสร้างประมาณ 7 เดือน ตั้งแต่ มีนาคม – ตุลาคม 2564
รายละเอียดงบประมาณ
งานก่อสร้าง อยู่ที่ 1.4 ล้าน (งานปูน เสาเข็ม ทาสี หลังคา ฝ้า)
งานตกแต่ง + เฟอร์นิเจอร์ อยู่ที่ 1.6 ล้าน (ไฟ กระจก ประตู ม่าน สุขภัณฑ์ ครัว เฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง)
บ่อปลาคาร์ป 3 แสนบาท
สวนหิน ไม้รั้ว ปูหญ้าใหม่ 1 แสนบาท
Owner : ครอบครัวธนพงศ์อาชา