บ้านชั้นเดียวหลังคาทรงจั่ว กับกลิ่นอายชนบทอังกฤษ
ในจังหวัดเชียงราย ด้วยงบประมาณ 1,2××,×××.-
บ้านสีขาวหลังน้อย กับบรรยากาศที่แสนเรียบง่ายกลางทุ่งนา ห้อมล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ ใบหญ้า ผ่านแรงบันดาลใจของหญิงสาวและคนรัก ที่คิดอยากสร้างบ้านหลังแรก เธอที่เป็นกราฟิกดีไซเนอร์มาก่อน เขาปัจจุบันเป็นวิศวกรโยธา ทั้งสองจึงชื่นชอบการออกแบบตกแต่งบ้านป็นทุนเดิม และมักค้นหาไอเดียจาก Pinterest อยู่เป็นประจำ จนไปสะดุดตากับภาพบ้านหลังคาทรงจั่วสูง ตามแถบชนบทของอังกฤษ จึงได้ตัดสินใจหยิบคาเร็กเตอร์สไตล์นั้นๆ นำมาลดทอนรายละเอียดสู่บ้านในแบบที่ชอบ เจ้าของคือ คุณปุ้ย ปรียานันท์ โตวณิชยการกูล และคุณเอ๋ สุวัฒน์ชัย หลวงสุภา ที่ได้ร่วมกันร่างภาพบ้านในฝัน กับความสุขที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ขนาด ภายในที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ที่คุกรุ่นทุกอณู กับรอยยิ้มแห่งความปริ่มใจของผู้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
สาวสวยเจ้าของบ้าน เริ่มบทบทสนาเริ่มต้น กว่าจะมาเป็นบ้านหลังนี้ให้เราฟังว่า “เดิมทีเรากับแฟนยังไม่เคยมีบ้านกันมาก่อน ปุ้ยเกิดที่เชียงราย แต่ไปเติบโตที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็ได้กลับมาเปิดธุรกิจคาเฟ่เล็กๆ ในชื่อ a daily และได้มาใช้ชีวิตอยู่กับแฟน เราทั้งคู่อาศัยนอนและพักที่ร้านเสมือนเป็นห้องเช่ามากว่า 5-6 ปี จนล่วงเลยผ่านมาเราสองคนก็มองว่าถึงเวลาแล้ว ประกอบกับอายุที่มากขึ้น ก็ได้ตกลงกันว่าอยากมีบ้านสักหลัง จนมาได้ที่ดินกลางทุ่งนาแปลงนี้ ซึ่งเป็นมรดกจากคุณแม่ ที่ได้ให้เราทั้งคู่ไว้”
ที่ดินแถบนี้ ก่อนที่เขาทั้งคู่จะเข้ามาปลูกสร้างบ้านนั้น ต้องบอกเลยว่าไม่มีบ้านเรือนตั้งอยู่เลยสักหลัง ถนนหนทางก็ยังไม่มีลูกรังมาถม ขั้นตอนแรกจึงต้องเข้ามาวัดพื้นที่ และทำการถมที่ความสูงจากพื้นเดิมประมาณ 130 ซม. และก่อนที่จะเริ่มก่อสร้างนั้น โชคก็ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากเสาไฟ มีการขยายเขตไฟฟ้าเกินระยะ ทำให้เจ้าของบ้านต้องเสียเงินเพื่อนำเสาไฟเข้ามาก่อน กับระยะประมาณ 120 เมตร ทั้งหมด 6 ต้น หมดไปราวๆ 90,000 บาท ซึ่งในส่วนของน้ำประปาก็ต้องมาเจาะบาดาลกันเองด้วย
คุณปุ้ยเล่าต่อว่า “เราใช้วิธีถมที่ทั้งหมด 3 ไร่ โดยเลือกขุดสระทรงฟรีฟอร์ม เพื่อที่จะเป็นการประหยัดดินด้วย เราทำการขุดดินมาทำคันสระ ที่เหลือเป็นดินดำ ได้นำไปโปะบนหน้าดินแดง เพื่อให้สามารถปลูกต้นไม้ได้ และเพื่อให้มีระดับที่เสมอกับถนนที่รถวิ่งทำนา ที่สำคัญคือเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าพื้นที่ในอนาคต และยังช่วยปรับสภาพแวดล้อมรอบบ้านให้น่าอยู่ขึ้นด้วย รวมราคาถมที่ขุดสระ อยู่ที่ 5××,×××”
เธอเล่าเพิ่มเติม “จากความคิดเริ่มแรกที่อยากสร้างบ้านพร้อมคาเฟ่ แต่มาเจอพิษเศรษฐกิจ และเป็นช่วงที่โควิดกำลังระบาด เราสองคนก็มองหน้ากัน และปรึกษากันจริงจังอีกครั้ง เพราะงบประมาณที่ค่อนข้างสูงลิบ ถ้าจะปลูกคาเฟ่เพิ่มอีกหลัง คุยไปมา ก็มาจบที่จะปลูกบ้านอย่างเดียวก่อน จากนั้นเราก็ทำแลนด์สเคปเพื่อที่จะปลูกต้นไม้ เพราะหลังจากถมที่เสร็จสีเขียวจากธรรมชาติคือเป็นศูนย์ พื้นที่ดูแดงโพลนไปหมด ไม่มีแม้แต่หญ้า จึงคิดว่าหากทำบ้านเสร็จจะลงต้นไม้ก่อน ค่อยๆ ปลูก ใช้เวลากันไป โดยสภาพอากาศบ้านเราอยู่เชียงรายค่อนข้างได้เปรียบอยู่แล้ว ซึ่งในอนาคตเราอาจเปิดคาเฟ่เพิ่ม” หลังจากที่ถมที่เสร็จ ด้วยความคุณเอ๋ เป็นวิศวกรโยธา แบบบ้านหลังนี้ เขาทั้งสองจึงร่างแบบเขียนแปลน เลือกวัสดุ ทำกันเอง คุมงานเองทั้งหมดทุกขั้นตอน โดยได้จ้างบริษัทรับเหมา ที่เหมาเฉพาะค่าแรงทำบ้าน แล้วก็ได้ว่าจ้างบริษัทรับเหมาที่เชียงราย เข้ามารับงานโครงสร้างให้
เมื่อโครงสร้างเสร็จเรียบร้อย เจ้าของบ้านก็ให้ช่างเข้ามาทาสี โดนเขาทั้งคู่ก็เป็นคนเก็บสีเองอีกครั้ง พื้นบ้านก็สั่งกระเบื้องยางมาติดตั้งกันเองทั้งหลัง หลังจากนั้นก็มาต่อที่งานบิวท์อิน เขาทั้งสองสั่งไม้มาทำกันเอง ส่วนใหญ่จะเป็นไม้สนฟินแลนด์ และไม้สนอเมริกา จากบริษัทอินเตอร์วู้ด
คุณปุ้ยบอกต่อว่า “เคาน์เตอร์บาร์ก็ขึ้นโครงไม้ แล้วปูกระเบื้องเอง รวมไปถึงเก้าอี้บาร์ ก็ลงมือทำกันเอง โดยดูแบบจาก Pinterest เตียงก็ซื้อเป็นแผ่นไม้ มาออกแบบ ตัดประกอบ ทำสีกันเอง พูดได้เลยว่าเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านเราทำกันเองสองคน โดยใช้เวลาหลังเลิกงาน และช่วงวันหยุด ค่อยๆ ลงมือทำอยู่หลายเดือน ด้วยความที่เราชอบสะสมอุปกรณ์เครื่องมือช่างมาเรื่อยๆ บวกกับพอทำเป็นบ้างเลยไม่ยากมากนัก”
บ้านสีขาวชั้นเดียวทรงจั่วสูง พร้อมห้องใต้หลังคา ตั้งอยู่บนพื้นที่ใช้สอยรวม 115 ตารางเมตร ภายนอกสะดุดตาด้วยรูปทรงหลังคาเมทัลชีท กรุฉนวน PU Foam สี Shutter Grey ของ บลูสโคป ความหนา 0.35 มม. เมื่อมองระยะไกลจะคล้ายกับลอนซีมเลส ที่ให้ฟีลคล้ายกับบ้านเมืองนอก ขณะที่หน้าต่างเลือกเป็นบานใหญ่ทรงเตี้ย รับเข้ากับตัวบ้านได้อย่างลงตัว




เมื่อเปิดประตูสมาร์ทโฮมเข้ามา ภายในประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยได้ปรับห้องนอนเล็กให้เป็นห้องโฮมเธียเตอร์ ต้อนรับกันด้วยโถงกลาง หลังคาเพดานสูง จัดสรรเป็นครัวฝรั่งวางด้วยบาร์ยาว เหมาะสำหรับทานข้าวกับครอบครัว ปาร์ตี้กันเล็กๆ จากหน้าบ้านสามารถมองทะลุไปยังหลังบ้านได้อย่างลื่นไหล ให้ความโปร่งโล่งสบายตาไม่น้อย


ที่สะดุดตาคือมุมทำงาน ได้รับการก่อเป็นช่องสี่เหลี่ยม พร้อมติดหน้าต่างบานใหญ่ สามารถมองเห็นต้นไม้ฉ่ำฉาที่แผ่กิ่งก้านอยู่เบื้องหน้าได้อย้างเต็มตา ซึ่งคุณปุ้ยเองก็มักจะมานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ ที่มุมนี้อยู่เป็นประจำ ด้านข้างกันนั้น ก็ได้จัดสรรเป็นมุมทำงานเล็กๆ สำหรับออกแบบดีไซน์ ติดเพียงท็อปไม้สำหรับทำโต๊ะ และแผ่นชั้นวางยึดเข้ากับผนัง วางเพียงเก้าอี้ ซึ่งทุกอย่างก็ดูเข้ามุมอย่างพอดิบพอดี เป็นอีกมุมที่ดูเรียบง่ายสบายตาไม่น้อย
ต้องบอกเลยว่า ก่อนที่โครงสร้างบ้านจะแล้วเสร็จ เขาทั้งสองก็ได้มีการวางแพลนกันล่วงหน้า เลือกวัสดุทุกอย่างกันเอง ซึ่งก็ได้มีการเปรียบเทียบราคามาก่อนแล้ว คุณปุ้ยได้บอกว่า “วัสดุที่เราเลือกใช้ค่อนข้างราคาสูง ตั้งแต่ระบบไฟ เราเลือกใช้ระบบสมาร์ทโฮมทั้งหลัง เพราะค่อนข้างใช้งานง่าย สะดวก ใช้สั่งงานผ่านมือถือและเสียง อุปกรณ์สั่งจากจีนทั้งหมด เราสองคนสั่งของจากจีนกันประจำอยู่แล้ว”
โดยภายนอกบ้านประกอบด้วยพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน มีห้องเก็บของ และห้องจัดเก็บเครื่องมือช่าง โดยรอบบ้านปลูกต้นไม้ทั่วไป ปูหญ้า ปลูกถั่วบลาซิล ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี
“บ้าน ก็คล้ายกับคำว่า บาน ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเติมแต่งในแบบของเราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้บ้านที่สมบูรณ์ตรงใจ สิ่งที่สำคัญคือ คนทำบ้านพอมีบ้านหลักแรกก็ย่อมมีงบประมาณที่อยู่ในใจ ไม่อยากให้เกินงบที่ตั้งไว้ หรือแพงเกินไป แต่เราอยากได้ความลงตัวที่พอดี


เริ่มเข้าใจความสุขของการได้มีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านที่เราตั้งใจสร้าง กว่าจะแล้วเสร็จเข้าอยู่ได้เกือบปี ตกแต่งด้วยของสะสมที่เคยอยู่แต่ในกล่อง ปุ้ยกับแฟนมีความสุขมาก ที่ได้อยู่ในวงล้อมของสิ่งที่รัก สองมือของสองเราที่ได้ช่วยกันสร้างเองเกือบทั้งหมด ทั้งปูพื้น ทำเฟอร์นิเจอร์ เลือกสีผ้าม่านเอง ติดวงกบ และอื่นๆ คือทุกจุดในบ้านเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำมากๆ พอบ้านแล้วเสร็จ แม้จะดูเล็ก แต่เรากลับสุขใจ อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้กลับมาบ้าน” เธอพูดทิ้งท้าย ด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ที่แผ่มาถึงผู้เขียน ให้อิ่มใจและยิ้มตามก่อนจะจบบทสนทนาลง
Owner : คุณปุ้ย ปรียานันท์ โตวณิชยการกูล และคุณเอ๋ สุวัฒน์ชัย หลวงสุภา