บ้านขนมปังขิง | ร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์ ที่เดินทางผ่านกาลเวลามากว่า 106 ปี

0


ชุบชีวิตบ้านขนมปังขิง (Ginger bread House) กับเสน่ห์ของวันวาน


บ้านเก่าโบราณเลขที่ 47 ย่านเสาชิงช้า ถูกปิดมายาวนานกว่าร้อยปี ทุกอณูซ่อนไว้ด้วยความทรงจำแห่งวันวาน ความอบอุ่นของครอบครัวในยุคสมัยนั้น ได้ถูกปลุกชีวิตให้กลับมามีชีวาอีกครั้ง ในบรรยากาศของร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์ ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมที่เคยเป็นเรือนพักอาศัย เผยให้เห็นร่องรอยของกาลเวลา รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงาม ข้าวของเครื่องใช้ ที่ได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกหลานได้ร่วมซึมซับไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยก็ตาม

บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 106 ปีก่อน (ช่วง พ.ศ. 2456) ในรูปแบบของบ้านขนมปังขิง Ginger bread House ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก นับเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 4-5  เจ้าของ ณ ขณะนั้น คือขุนประเสริฐทะเบียน (นายขัน) และ อำแหน่งหน่าย สกุลพราหมณ์ ผู้เป็นภรรยา

ความงดงามอ่อนช้อยของลวดลายฉลุ สะท้อนถึงความละเอียดละออ ปรากฎให้เห็นตามบานหน้าต่าง ชายคา ลูกกรง และระเบียง โดยนายขันได้ออกแบบบ้านเองทั้งหมด นอกจากนี้หากได้พินิจพิจารณารายละเอียดความประณีตต่างๆ จะเห็นว่าช่องลมทุกช่องภายในบ้าน ได้ถูกสลักอักษร “ขัน” เสมือนเป็นตราสัญลักษณ์ชื่อของขุนประเสริฐทะเบียนนั่นเอง

บ้านขนมปังขิง ตกทอดเรื่องราวความจรงจำจากรุ่นสู่รุ่น เดินทางข้ามผ่านกาลเวลาเรื่อยมาจนถึงทายาทรุ่นที่ 3 คือท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ซึ่งในยุคสมัยนั้น ท่านมีเจตจำนงค์อันแน่วแน่ว่าห้ามขายบ้านหลังนี้เด็ดขาด โดยให้รักษาสภาพให้เหมือนเดิมมากที่สุด

เพื่อให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสบรรยากาศ ซึบซับกลิ่นอายของอดีตอันน่าหลงใหล ผ่านสถาปัตยกรรมของบ้านขนมปังขิง โดยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ได้มีการแกะสลักป้ายชื่อ “บ้านขนมปังขิง” พร้อมทั้งลงรักปิดทอง ด้วยฝีมือคุณหมอสิทธิ์ ผู้เป็นสามีท่านผู้หญิงเพ็ชรา โดยได้ติดไว้ที่ประตูหน้าบ้านจวบจนถึงปัจจุบัน

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน ท่ามกลางบริบทที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงก็ย่อมเกิดขึ้น เนิ่นนานผ่านกว่า 106 ปี บ้านหลังนี้ก็ตกมาถึงทายาทรุ่นที่ 4 คือคุณธนัชพร คุณารัตนอังกูร ซึ่งเป็นบุตรสาวท่านผู้หญิงเพ็ชรา

จากสภาพของบ้านที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เธอจึงได้ปรึกษากับคุณแม่ และตัดสินใจว่าจะมีการต่อลมหายใจให้บ้านหลังนี้ ให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง สู่ร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์ ที่ยังคงเก็บรักษาความทรงจำบนสถาปัตยกรรมของบ้านขนมปังขิงไว้ โดยไม่เปลี่ยนแปลง หรือทาสี แต่จะซ่อมแซมเฉพาะส่วนที่ชำรุดหนักเท่านั้น

“หากเราจะทำบ้านให้ใหม่นั้นไม่ยาก แต่หากเราจะทำบ้านให้เก่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถย้อนอดีตได้” หนึ่งในบทสนทนาของเจ้าของบ้าน ที่ได้กำชับกับทางทีมช่าง เพื่อให้ทุกอย่างเหมือนเดิมมากที่สุด ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาสัมผัสเรื่องราวของบ้านขนมปังขิง

ซึมซับกลิ่นอายเมื่อร้อยกว่าปีก่อนผ่านบริบทใหม่ พร้อมทานขนมไทยแสนอร่อยเคียงเครื่องดื่มแก้วโปรด ร้านตั้งอยู่ในซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ ย่านเสาชิงช้า เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา  09.00-20.00 น. โทร09-7229-7021 หรือ Facebook : บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า